Monday, December 19, 2005

ก้าวเจ็บๆ ของ ‘ดัง พันกร’

เลิกแอบเสียที/วิทยา แสงอรุณ Metro Life นสพ. ผู้จัดการวันเสาร์

10-11 ธันวาคม 2005

ตอนที่ดังออกมิวสิกวิดีโอเพลง “เกิดมาเพื่อช้ำ” จากอัลบั้ม OUT OF CONTROL เมื่อปีที่แล้ว แฟนเพลงพากันระส่ำ ต่างตั้งข้อสงสัยกับ “บทจูบ” ของเขากับนักแสดงสาวในมิวสิกฯว่า กำลังจะบอกอะไร? ดังจูบหญิงทำไมเนี่ย?

ในปีนี้ มิวสิกฯ เพลง “เจ็บมาก...มาก” จากอัลบั้มใหม่ล่าสุด METRO SEXUAL (เขียนแยกกัน) น่าจะทำให้แฟนเพลงที่เคยไม่เชื่อ ได้เชื่อเสียที!

นอกจากนี้ คนไม่เชื่ออาจจะได้เห็น ได้เข้าใจ และได้เรียนรู้ถึงแก่นแท้ว่า ไม่มีอะไรดีที่สุดเท่ากับการช่วยสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้คนๆ หนึ่งได้เป็นตัวของตัวเอง ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนต่อหน้าฝูงชน อยู่ในห้องน้ำ อยู่ที่บ้าน และไม่ว่า เขาจะทำหน้าที่การงานอะไรในสังคม

เอ็มวีเพลงเจ็บมาก...มากนี้ เล่าเรื่องราวของคู่รักที่มีปัญหากันจำนวนเก้าคู่

โดดเด่นที่สุดเห็นจะไม่พ้น หนุ่มน้อยสองคนกับกางเกงบ๊อกเซอร์สองแบบ ทั้งสองนอนอยู่บนเตียง พร้อมตุ๊กตาหมีสีน้ำตาล เขาหันหลังให้กัน ไม่ต่างอะไรกับคู่รักอื่นๆ ในเอ็มวีเดียวกัน

ผิดแต่ว่า คู่อื่นๆ ไม่ได้นอนเคียงกันอยู่บนเตียง และบางคนก็ไม่ได้อยู่กับใคร ดังเช่นสาวร่างยักษ์กำลังนั่งร้องไห้ตรงบันไดให้กับเสื้อเชิ้ตผู้ชาย สาวเซอร์ปล่อยอารมณ์เศร้านอนลอยน้ำอยู่ในสระ หลับตาแล้วก็ลืมตา หรือหนุ่มอารมณ์ฉุนเฉียวที่นั่งโกรธเกรี้ยวคนเดียวในรถ

ลองคิดใหม่

หากเอ็มวีเพลงนี้ ไม่มีคู่อื่นๆ เลย มีแต่คู่สองหนุ่มนั่นบนเตียงตลอดทั้งเพลง เพลงเจ็บมาก...มากนี้ก็คงถูกวิจารณ์และโดนโจมตีแหลกว่า เป็น “เพลงเกย์” แน่ๆ แล้วใครจะช่วยดัง และสนับสนุนอาร์เอสโปรโมชั่น?

อาร์เอสฯ เจ้าของค่ายก็ไม่วายโดนกล่าวหาว่า กำลังโปรโมทคนให้เป็นเกย์มากขึ้น กระทรวงวัฒนธรรมคงจะต้องค้อนตาเขียว (ทั้งๆ ที่กระทรวงมีข้าราชการเกย์อยู่เยอะ) และดัง พันกร ก็ไม่พ้นโดนตีตราว่า เป็นนักร้องเกย์ ทั้งๆ ที่ในบ้านเรามีนักร้องเกย์ และวงดนตรีทอม-ดี้ นักร้องหญิงรักหญิง และพวกเขาก็ผลิตผลงานดีๆ ออกมาเยอะแยะ

เสียดายยังมี “คนฟังเพลงที่ไม่พัฒนา” อยู่อีกมากที่ชอบเอาความรู้สึกชอบพอทางเพศของนักร้องมาตัดสินผลงานของพวกเขา

แถมมีพวกที่คอยตั้งแง่รังเกียจ ด้วยการอ้างศีลธรรมอันดีงาม (ไม่รู้ใครกำหนด) ทั้งๆ ที่ชื่นชอบเพลงของนักร้องนักแสดงคนนั้น และทั้ง ๆ ในใจ ก็ยอมรับอยู่ว่า เพลงของเขา งานของเขามีคุณภาพ คนฟังเหล่านี้มักตั้งกฎเหล็กให้กับศิลปินว่า “เอ็งจะเป็นเกย์ หรือเป็นอะไรก็ได้ แต่อย่า ‘แสดงออกมา’ ข้ารับไม่ได้!!!”

การเล่นซ่อนหา ปล่อยข่าวกุ๊กกิ๊กกับหญิง และกลยุทธ์สร้างภาพคลุมเครือจึงเป็นสิ่งที่ใช้ได้ผลมากที่สุดในการปกปิดตัวตนที่แท้จริงก็เพี่อจะเอาใจบรรดาแฟนเพลง ผู้ชม และผู้ฟังที่มีอคติทางเพศแหละ และสำหรับคนทำงาน ก็เพื่อ “ปลอดภัยไว้ก่อน”

ผมคิดว่า จริงๆ แล้วแฟนเพลงพวกนั้นน่าจะมีจำนวนน้อยกว่า แฟนเพลงที่พัฒนาแล้ว ดูจากความคิดเห็นบนบอร์ดต่างๆ คุณอาจจะได้เห็น นับวันจะพบพวกมีอคติทางเพศน้อยลงไป จนจะกลายเป็นกลุ่มใกล้สูญพันธุ์

แต่แล้ว ในภาพรวม เราจะก็ยังหนีไม่พ้นการศิโรราบทางปัญญา เรียกง่ายๆ ว่า เกือบทั้งสังคม เกือบทุกหนแห่ง ก็ยังมีคนที่ให้ความเคารพนับถือ ความรู้สึกรังเกียจเหยียดเพศ ขณะที่การยอมรับความแตกต่างทางเพศ ซึ่งเป็นสัจธรรมที่แท้จริงของชีวิตนั้น กลับเป็นสิ่งที่ยากจะเกิดและยากจะอยู่ได้อย่างมั่นคงในจิตใจองแต่ละคน

ใครๆ ก็อยากเห็นดัง พันกร เป็นนักร้องรูปหล่อที่เป็นผู้ชายรักผู้หญิง จึงเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่แฟนเพลงผู้หญิงจำนวนหนึ่งอยากเห็นตัวเองเป็นนักแสดงหญิงในมิวสิกฯ ของเพลงปีที่แล้ว เพื่อจะได้จุมพิตกับดังให้หนำใจ

แต่ก็มีแฟนเพลงอีกกลุ่มหนึ่งที่พูดว่า เขาจะเป็นอะไรก็ช่าง ขอเป็นแฟนเพลงของดังตลอดไป อย่างนี้สิ ถึงเรียกว่า เป็นแฟนเพลงที่พัฒนาแล้ว และน่าชื่นชม

ด้วยความรู้สึกเคารพอคติและความคลุมเครือในสังคม อัลบั้มใหม่ของเขา “METRO SEXUAL” จึงไม่อาจจะใช้ชื่ออื่นที่กลัวจะล้ำเส้นความรู้สึกของคนไปได้มากกว่านี้

ดังและค่ายอาร์เอสฯ คงยังไม่พร้อมที่จะดังไปกว่านี้ ด้วยการสร้างความแรงในการตั้งชื่ออัลบั้มว่า Homosexual หรือชื่ออื่นใดที่สะท้อนตัวจริงของดังได้ดีกว่านี้ ก็คงต้องรอไปก่อน

อย่างน้อย ผมก็ยังดีใจ คนที่คิดคำว่า Metrosexual ก็คือเกย์ คำๆ นี้คือผลิตผลจากเกย์แท้ๆ และ ไม่น่าแปลกที่เกย์ที่ยังไม่พร้อมจะเปิดเผย สินค้า นิตยสาร บริการอีกมากมายที่ยังกลัวๆ เรื่องไร้สาระ จึงอาศัยคำว่า Metrosexual ไปพลางๆ ก่อน เพื่อกลบเกลื่อน และสร้างความสบายใจให้กับผู้คน ยามที่คำว่า Homosexual ยังคงแสลงใจ

ก็ไม่ต่างอะไรกับคนเป็นเกย์ที่กำลังจะเปิดเผยตัวแหละครับ ใครๆ ก็อยากจะใช้ชีวิตที่ปราศจากความกังวลทั้งนั้น หลายๆ คนมักจะบอกคนรอบข้างเพื่อชิมลางไปก่อนว่า ผมเป็นไบเซ็กช่วล หรือไม่ก็บอกว่า ผมยังไม่ตัดสินใจ ตอนนี้ยังงงๆ อยู่ ค้านกับ ในใจ ที่ลึกๆ ก็รู้ตัวแล้วล่ะว่า ชอบจู๋มากกกว่าชอบจิ๋ม)

อัลบั้ม “METRO SEXUAL” ก็เหมือนกัน มันคือ การโยนหินถามทาง เป็นใบเบิกทางก่อนความจริงเต็มร้อยจะปรากฏให้เห็นเต็มตาเพื่อการยอมรับของผู้คนอย่างเต็มใจ มันคือรอยเชื่อมต่อของความจริงกับความลวงเพื่อทำให้สังคมไม่ตกใจช็อก แล้วหาเรื่องแปรอารมณ์ช็อกมาเป็นอารมณ์โกรธและต่อต้าน

เอลตั้น จอห์น จอร์จ ไมเคิล วิล ยัง และศิลปินคนอื่นๆ ผ่านจุดคลุมเครือเหล่านั้นไปแล้ว และพวกเขาเป็นศิลปิน Homo ที่เป็นตัวเองได้อย่างแท้จริง ที่ผ่านมาเนี่ย เพลงของเขาทำให้คนเป็นเกย์มากขึ้นหรือ?

แฟนเพลงที่รักดังอย่างจริงใจ และนับถือคุณภาพของเสียงร้อง และคุณภาพของการถ่ายทอดบทเพลงของเขา ต้องช่วยให้เขาเป็นตัวของตัวเองได้ในทุกๆ โอกาส ทั้งในที่สาธารณะ หรือที่บ้าน เขาจะใส่สายเดี่ยวไปเดินเตร่ หรือเดินเล่นสบายอารมณ์สุนทรีย์ที่ไหน ในชุดอะไร ควรให้เขาทำไปเพื่อความสบายใจของเขาเอง

กฎเหล็กที่ว่า “อย่าแสดงออก” น่าจะเป็นเรื่องโบราณ และไร้สาระ ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับคนในยุคนี้อีกแล้ว เกย์ทั้งหลายจะได้เลิก “เจ็บใจ” เสียที

-end-

1 comment:

Anonymous said...

ไม่มีอะไรที่ได้มาโดยไม่ต้องสูญเสียสิ่งอื่นไป...
รู้สึกชื่นชมศิลปินคนนี้มากขึ้นจากเดิมที่เคยนิยม
มาตั้งแต่สมัยออกอัลบัมแรก ๆ พอมาเจอการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ของดังในอัลบัมล่าสุดนี่ยิ่งทำให้ผม crazy มากขึ้นไปอีก ขอสดุดีในความกล้าและบ้าของดังจากนี้ผมคงต้องเปลี่ยนสถานะจาก "แฟนเพลง" มาเป็น "ผู้สนับสนุน" (อย่างเป็นทางการ)เสียที ...
ขอส่งท้ายว่า ...ถ้าจะต้อง "ดัง" ในแบบที่ไม่ใช่ตัวของ "ดัง" เอง นั่นย่อมเป็นเพียงชื่อเสียงจอมปลอมที่ไร้อิสระในการนำเสนอ และเมื่อกล้าที่จะก้าวออกมาแล้วความ "เจ็บ...มาก...มาก" ของดังในครั้งนี้ย่อมไม่สูญเปล่าแน่นอน

จาก CrazyP