พี่น้องท้องไม่ชนกัน

เลิกแอบเสียที/วิทยา แสงอรุณ Metro Life นสพ. ผู้จัดการวันเสาร์
vitadam2002@yahoo.com
11-12 มีนาคม 2006

จดหมายจากผู้อ่านท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า รู้ตัวว่าเป็นเกย์มาตั้งนานแล้ว แต่ยังไม่กล้าจะบอกที่บ้าน และแม้จะไม่ได้รู้สึกผิดหรือรู้สึกรังเกียจสิ่งที่เป็น แต่ก็ยังกลัวที่บ้านจะรับไม่ได้

“คงต้องรอจังหวะเหมาะๆ ไปก่อน” เขาว่าอย่างงั้น

ขณะที่เขากำลังมองหาจังหวะที่เหมาะๆ ให้กับตัวเอง ก็บังเอิญเกิดเรื่องทะเลาะกับน้องชาย มีอะไรบางอย่างที่เขาค้นพบเกี่ยวกับน้องชายคนเล็กของเขาและชวนให้เขาสงสัย และต่อมาก็มั่นใจมากขึ้นว่า เจ้าน้องคนนี้ที่คลานตามกันมาอาจจะมีความลับหนักใจที่ไม่ต่างกัน

การมีพี่หรือน้องในครอบครัวเดียวกัน และเป็นชายรักชาย หรือหญิงรักหญิงเหมือนกัน น่าจะทำให้ไม่เหงา หรือไม่ถูกตราหน้าอยู่คนเดียวในตระกูลว่าเป็นแกะดำ (ทำไมไม่ตราหน้าหน้าว่า เป็นแกะม่วง หรือแกะรุ้ง-ก็ไม่รู้ ดูดีมีสีสันกว่ากันนะ)

อีกอย่างที่ดี ก็คือ การมีพี่น้องเป็นเกย์เหมือนกันอาจจะช่วยเป็นเครื่องยืนยันทางวิทยาศาสตร์ให้ชาวโลกไขข้อสงสัยที่ว่า เป็นเกย์เกี่ยวกับสภาพแวดล้อม หรือเป็นเรื่องเกี่ยวกับกลไกทางพันธุกรรมกันแน่?

เรื่องพวกนี้ยังเถียงกันไม่จบสิ้น

เอาเถอะ แม้จะมีคุณูปการอยู่บ้างที่มีน้องชายเป็นเกย์ ท่านผู้อ่านท่านนี้ก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี เพราะวาระที่ตั้งใจไว้ว่าจะบอกคุณพ่อและคุณแม่ถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา คงต้องนำกลับไปทบทวนเสียใหม่ก่อนนำมาเข้าที่ประชุม

นี่ถ้าที่บ้านรับรู้พร้อมกันทีเดียวว่า ทั้งพี่ทั้งน้องตระกูลนี้เป็นเกย์ทั้งคู่ อาจจะเกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์ถล่มหลังคาบ้าน ตอนนี้เขาก็เลยกลุ้มอกกลุ้มใจกว่าเดิม ไม่รู้ว่า “จังหวะเหมาะๆ ของตัวเอง” จะเกิดขึ้นได้เมื่อไหร่

หรือจะไม่มีวันเกิดขึ้นเลย?

แต่ตอนนี้จังหวะเหมาะๆ บางอย่างเกิดขึ้นกับผมแล้ว

ผมยังไม่เคยบอกท่านผู้อ่านเลยใช่ไหมครับว่า ผมมีคนในตระกูลเป็นเกย์อีกคนหนึ่ง?

แรกๆ ผมลังเลที่จะพูดถึงเขา เพราะมีความลับอะไรหลายอย่างที่ผมไม่เคยเปิดเผยกับใครๆ มาก่อน

ประการแรกเลย...เขาไม่เคยรู้หรอกว่า วิดีโอ (สมัยนั้นยังไม่มีดีวีดี) ที่เขาซุกซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้าน่ะ ผมแอบไปเอาออกมาดูจนเกือบเกลี้ยงตู้แล้ว และผมอยากจะบอกเขาอีกว่า คอลเลคชั่นที่เขามีน่ะ เด็ดมาก!!!!

อีกอย่างที่ผมลังเลจะพูดเรื่องนี้ ก็เพราะผมเคยรู้สึกกลัวใครๆ จะหัวเราะเยาะเอาว่า บ้านนี้ “ทำไมมีคนเป็นเกย์” เยอะจัง

จริงๆ แล้ว สองคนเนี่ยนะ เยอะ?

แต่พอผมนึกๆ ทบทวนดู ในสมัยเด็ก ผมก็มีลูกพี่ลูกน้องผู้ชายอีกคนที่เข้าข่าย เขาคนนั้นหน้าตาสวยมาก ตาโต ผิวพรรณดี เรียบร้อยราวนางในราชสำนัก แต่เพราะเราไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่ และด้วยตอนนั้นผมกลัวคนรู้ความลับของผม และผมเคยเห็นคนล้อเลียนลูกพี่ลูกน้องคนนั้น ถึงผมจะไม่ได้ดูเหมือนนางในสำนักใดๆ ผมก็ไม่อยากโดนเหมือนเขา ผมคงไม่เก่งเท่าเขา ที่อดทนเป็นเลิศ

เมื่อเดือนที่แล้ว เพิ่งได้อ่านนิตยสาร Attitude ผมก็เริ่มเข้าใจความรู้สึกของคนที่มีพี่หรือมีน้องเป็นเกย์เหมือนกัน แถมยังอดขำเกี่ยวกับเรื่องราวของพวกเขาไม่ได้ หวังว่าคุณผู้อ่านท่านนั้น คงสบายใจขึ้นเยอะ

นิตยสารไลฟ์สไตล์ของอังกฤษฉบับนี้ ตั้งประเด็นไว้ว่า การมีพี่หรือน้องเป็นเกย์มีผลอย่างไรบ้างกับชีวิตพวกเขา แล้วผู้สื่อข่าวก็จับหนุ่มเกย์พี่น้องสามคู่มาทำ Q&A คำถามคำตอบกันแบบเปิดอกสุดๆ

ผมพบว่า การที่เรามีพี่หรือน้องที่เป็นเกย์ และตัวเราเองเป็นเกย์ด้วย อาจช่วยทำให้เราเปิดเผยตัวเร็วขึ้นก็ได้

ในกรณีของคุณโจโน (อายุ 27) และคุณแอนดี้ (30) แม้คุณโจโนจะอายุน้อยกว่า แต่เขาก็มีประสบการณ์ที่ทำให้เขามั่นใจได้ว่า เขาชอบกะจู๋มากกว่ากะจิ๋ม

คุณโจโนเคยมีแฟนผู้หญิงมาก่อน และจำได้ว่า เคยมีประสบการณ์กับคนเพศเดียวกันตอนอายุราว 18 เขาเคยมีแฟนผู้ชายเป็นตัวเป็นตนมาแล้วด้วย แต่ก็ปิดไว้

หนหนึ่งเขาพาแฟนหนุ่มมาที่บ้าน บอกพ่อแม่ว่าเป็นเพื่อนจากโรงเรียนเดียวกัน หนหนึ่งตอนที่ไม่มีใครอยู่บ้าน พ่อแม่บังเอิญกลับมาก่อนเวลา พ่อเปิดประตูผลัวะเข้าไปเห็นสองหนุ่มกำลังนอนตะกองกอดหลับใหลไม่ได้สติกันอยู่บนเตียง คุณโจโนยืนยันว่า ไม่ได้มีอะไรกันในบ้านวันนั้น แต่เผลอหลับไป แต่คุณพ่อก็สติแตกไปแล้วเรียบร้อย ส่วนแม่ก็ตกใจ ร้องไห้

ต่อมา โชคดี ทั้งพ่อและแม่ก็เริ่มทำความเข้าใจ และทั้งสามก็ผ่านพ้นช่วงเวลาน่ากลุ้มกันไปได้

ด้านคุณพี่ชาย ก็ใช่ย่อย เขาเคยไปเที่ยวสถานบันเทิงของเกย์ตั้งแต่อายุ 20 หนหนึ่ง ดันไปจ๊ะเอ๋กับน้องชายตัวดีที่นั่นเข้า ความลับเลยแตก แต่คุณแอนดี้ก็ยังไม่มี “จังหวะเหมาะๆ” ที่จะบอกเสียที เรื่องเผลอไผลปล่อยให้จับได้ คงยาก เพราะเขาย้ายออกจากบ้านตั้งแต่ไปเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว

ตอนนี้น้องชายสุดหล่อ (ต้องได้เห็นรูป หมอนี่หล่อน่ารักจริงๆ) ได้โป๊ะแตกไปก่อนแล้ว เขาก็เลยลังเล ไม่รู้จะบอกดีหรือไม่ เพราะสถานการณ์ของเขากำลังเปลี่ยนไปและลำบากขึ้นกว่าเดิม เขาพูดว่า “I found that hard because they already knew Jono was.” หมายความว่า นายโจโนขโมยซีนไปก่อนว่างั้นเถอะ

ตอนนั้นคุณแอนดี้ ก็มีแฟนและอยู่ด้วยกัน 3 ปีแล้ว แม่ก็ชอบถามอยู่เรื่อย ถามทีก็ต้องปั้นเรื่องทีว่ากำลังทำโน่นนี่อยู่ ทั้งๆ แฟนหนุ่มก็นอนอยู่ด้วยกันบนโซฟาตอนคุยโทรศัพท์กับมารดานั่นแหละ เขารำคาญใจมาก และรู้สึกเบื่อตัวเองที่ต้องคอยโกหกบุพการีเป็นประจำ วันหนึ่ง ก็เลยขับรถไปบ้าน แล้วบอกออกไปเลยว่า “ผมมีบางอย่างจะบอก ผมเป็นเกย์” เท่านั้นแหละ พ่อก็ตกใจมาก ได้แต่พูดว่า "No, no." (ถ้า Whitney หรือ Mariah อยู่ตรงนั้น คงช่วยกันตีมือในอากาศสะบัดไปเลย)

คุณเริ่มเชื่อหรือยังว่า เป็นเกย์น่าจะเกี่ยวกับพันธุกรรมบางอย่าง

เรื่องของคุณมาร์คกับนีล ก็เด็ดไม่น้อยครับคุณผู้อ่าน ทั้งสองคนเป็นแฝด-ฝาเดียวกัน หน้าตาเหมือนกันเด๊ะ แต่ทำผมไม่เหมือนกัน

ในวัย 33 ทั้งคุณมาร์คและคุณนีล ผ่านประสบการณ์สับสนมาด้วยกัน คุณมาร์คท่าจะสับสนกว่า แม้จะสงสัยความชอบพอทางเพศของตัวเอง แต่ก็ไม่มีโอกาสได้สำรวจตรวจตราให้รู้แจ้งเห็นจริง และก็ไม่เคยคิดถึงผู้ชายอีกคนที่หน้าตาเหมือนตัวเองเดี๊ยะว่า อาจจะเป็นเหมือนกัน เขาสองคน แม้จะสนิทกันก็ไม่เคยคุยเรื่องนี้มาก่อนแต่อย่างใด

หนุ่มมาร์คตัดสินใจแต่งงานไป

ของมันไม่ใช่มันก็ไม่ใช่วันยังค่ำล่ะครับท่านผู้ชม ในที่สุดชีวิตแต่งงานของคุณมาร์คห้าปีก็พังครืน ตอนนี้เขาเริ่มตาสว่าง เลยพยายามไปทำตัวสว่างๆ ค้นหาตัวตนที่แท้จริง เลิกปิดกั้นตัวเอง หนุ่มมาร์คก็เริ่มคบเพื่อนเป็นเกย์ และไปเที่ยวพบปะผู้คนๆ อื่นๆ ตามสถานที่เที่ยวต่างๆ

ด้วยความเป็นพี่น้องที่รักกันมาก คุณนีลก็ยินดีอยู่เคียงข้างกันและกัน เรียกว่า นายไปไหนฉันไปด้วย พอไปเที่ยวด้วยกันสองสามหน หนุ่มมาร์คก็เริ่มผิดสังเกต เอ๊ะ ไอ้นี่ ทำไมนีลถึงได้เข้ากันได้กับเพื่อนๆ ทุกคนของฉัน ดูจะเฮอาปาร์ตี้สุขีเหมือนพวกเดียวกัน?

อ๊ะ อ๊ะ เทวดาย่อมเห็นเทวดา (ไม่นิยมผีเห็นผี-น่ากลั๊ว) และแล้ววันหนึ่ง นายนีลมีปัญหาคับอกคับใจอะไรบางอย่างถึงขึ้นทนไม่ไหวแล้ว เขาก็โพล่งออกมาต่อหน้าธารกำนัลในคืนวันคริสต์มาสต์ที่ทุกคนมาอยู่พร้อมหน้ากันว่า เขาเป็นเกย์ ทุกคนก็พยายามเข้าใจ แต่ตอนนี้สายตาทุกคู่หันมาจับจ้องอยู่ที่นายมาร์คด้วยแล้ว เหมือนจะคาดคั้นว่า “แล้วเอ็งล่ะ ว่างายยยย?” แม้จะขึ้นชื่อว่า ได้เคยแต่งงานมาแล้ว แต่ทุกคนก็เชื่อว่า น้องแฝดเป็นเกย์ แล้วพี่ชายจะไม่เป็นเรอะ? เป็นไปไม่ได้

อีกคู่ คุณดาเร็นอายุ 37 ส่วนน้องชาย คุณดีน อายุ 36 ก็มีเรื่องให้ผูกติดกันจนต้องเปิดเผยความจริง คุณดาเร็นเล่าว่า เขาไม่ได้เปิดเผยตัวอย่างเป็นทางการกับที่บ้าน แต่ด้วยความที่คุณดีนไปเปิดเผยความจริงกับมารดาก่อน ทำให้เขาหลีกหนี หรือปกปิดอะไรไม่ได้อีกต่อไป

กรณีนี้แตกต่างจากสองคู่ข้างบนนิดหน่อย ด้วยความที่มารดาของทั้งสองคงรู้ระแคะระคายมาแล้วว่า คุณดาเร็น ซึ่งไม่เคยคบหาผู้หญิง “ให้แม่เห็น” สักที คงไม่ใช่ชายรักหญิงเป็นแน่แท้ ตอนที่คุณน้องชายมาคร่ำครวญโศกาเพราะมีปัญหาจนต้องยอมพูดความจริงกับแม่นั้น คุณแม่ก็บอกคุณดาเร็นแบบเรียบๆ ว่า ช่วยน้องหน่อยในทำนองว่า “แกก็คงรู้สึกแบบเดียวกับเขา คงช่วยกันได้”

จริงๆ แล้วคุณดาเร็นแอบรู้มาก่อนหน้าแล้วว่า น้องชายก็เป็นเกย์เหมือนกัน เพราะเคยไปเห็นรถของน้องจอดอยู่ที่บาร์เกย์แห่งหนึ่ง เขาเลยตามเข้าไปดู ก็เห็นน้องชาย ซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของห้อง กำลังเหล่หนุ่มๆ (สองคนนี้บอกด้วยว่า เคยเหล่หนุ่มคนเดียวกัน)

ในที่สุด “เราก็มีเรา” ในครอบครัวอบอุ่น หนุ่มๆ ทั้งหมดไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้ว การที่ทั้งสองคนเปิดเผยต่อกัน ไม่มีความลับต่อกัน ทำให้ความรู้สึกเป็นพี่น้องมันแนบแน่นมากยิ่งขึ้น คุณมาร์คกับคุณนีล ต่างมีแฟนแล้วทั้งคู่ และไม่วอกแวกเฉไฉไปเที่ยวเรื่อยเปื่อย ทั้งคู่ดูแลกันและกัน ยามที่คุณมาร์คกับแฟนไม่อยู่ คุณนีลกับแฟนก็จะไขกุญแจเข้าบ้านคุณมาร์คได้และช่วยพาหมาไปเดินเล่นแทน

อะไรๆ ที่เหมือนๆ กันมักเกิดขึ้นบ่อยๆ พี่น้องเกย์ส่วนใหญ่บอกว่า พวกเขามักโดนคำถามคล้ายๆ กันหลังจากแนะนำตัวให้คนเพิ่งรู้จักว่า เราเป็นพี่น้องกันและเป็นเกย์เหมือนกัน คนที่ได้ยินมักจะถามว่า “แล้วคุณมีเซ็กซ์กันหรือเปล่า?”

คุณแอนดี้ เล่าให้ฟังว่า เขารู้แกวแล้ว ต่อไป เขาไม่รอให้โดนยิงคำถามอย่างนั้นใส่ เขาจะบอกไปเลยไม่ต้องรอให้ถาม “เราไม่มีเซ็กซ์กัน” และถามกลับตอกหน้าคนถามด้วยว่า “แล้วคุณมีเซ็กซ์กับน้องสาวคุณหรือเปล่าล่ะ?”

ยังมีคนชอบถามอย่างนี้ด้วยเหตุผลอีกอย่างคือ คนถามอยากจะรู้ว่า ถ้าเขาจะขอ threesome กับสองพี่น้องจะว่ายังไง เกย์บางคนคิดว่า นั่นเป็นแฟนตาซีเซ็กซ์ที่สุดยอดมาก กรณีของคุณแอนดี้กับคุณโจโน ต่างปฏิเสธทันที ส่วนคู่แฝดคุณมาร์คกับคุณนีล ก็บอกว่า ไม่เคยอยากทำเพราะไม่สนใจ ส่วนคู่พี่น้องคุณดีนกับคุณดาเร็นบอกว่า “เคยมาแล้ว” “แต่เรื่องจะให้เราทำไอ้นั่นกันให้กันตอน threesome น่ะ ไม่อาวววหรอก”

คุณผู้อ่านมีพี่หรือมีน้องเป็นเกย์ หรือเลสเบี้ยนหรือเปล่า สงสัยจังว่า รู้สึกยังไง?

บอกต่อกันไป : ฉบับที่แล้ว เรื่อง “คาวบอยคนนั้นไม่ได้ตกม้าตาย” มีข้อแก้ไข บรรทัดที่สี่ ที่ถูกต้องคือ แจ็ก : คนดูเรื่องเราแทบทั้งโลก เราชนะรางวัลมาแล้วแทบทุกที่” ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ / เตรียมชมละครเวทีหฤหรรษ์ “วิวาห์คาบาเร่ต์” 18-19 , 24-25-26, 31 มี.ค. และ 1-2 เม.ษ. ณ โรงละคร bangkok theatre ๑ metropolis รายละเอียด www.thaiticketmaster.com หรือ 02-713-0801
“จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อลูกชายของเจ้าของคณะคาบาเร่ต์ที่อยู่กินกับดาวเด่นประจำคณะ จะแต่งงานกับลูกสาวของว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรม เลขาธิการพรรค ไทยรักวัฒนธรรมไทย”
นำแสดงโดย ศรัณยู วงศ์กระจ่าง เมทะนี บุรณศิริ ญานี ตราโมท บุญชัย จักราวรวุธ วราพรรณ หงุ่ยตระกูล มอริส เค ศิรินุช เพชรอุไร ปิยะ เศวตพิกุล ตะวัน จารุจินดา และ ลูกหว้า พิจิกา

-End-

All rights served.