Monday, February 26, 2007

17 ปีที่เราเซอร์ไพรซ์

เลิกแอบเสียที / วิทยา แสงอรุณ Metro Life นสพ. ผู้จัดการวันเสาร์ vitadam2002@yahoo.com 24-25 Feb 2007

“คุณโก้” กับคนรักของเขามีข้อตกลงบางอย่างที่น้อยคู่นักจะกล้าทำ สิบกว่าปีก่อนนั้น คงไม่มีใครรู้หรอกว่า มันจะได้ผลหรือเปล่า แต่ปัจจุบัน ทั้งสองก็ยังอยู่ด้วยกัน เพิ่งจะย่างเข้าปีที่ 18 เมื่อปลายมกราคมที่ผ่านมานี้เอง

“ผมบอกเขาว่า....” คุณโก้เริ่มเล่า และด้วยความที่เป็นคนพูดติดตลก การเปรียบเปรยของเขามักจะไม่ธรรมดา “....เราเข้าใจนะ เป็นเกย์ ก็ต้องชอบผู้ชาย ฉันรู้ว่า ฉันไม่ใช่คนเซ็กซ์ดี่สุดในประเทศ ไทย ไม่ใช่รูปร่างดีมาก หล่อมาก หรืออวัยวะสวยงามมาก... ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น ในเมื่อฉันเห็นคนหล่อ ฉันยังมองตาม งั้น ถ้าคุณอยากไปมีอะไรกับใคร ฉันก็ไม่ว่า...”

“แต่…” ครับต้องมีแต่ เพราะถ้าไม่มีแต่ แล้วจะอยู่ด้วยกันไปทำไม จริงเปล่า?

“แต่...มีข้อแม้สองข้อ 1. ต้องบอกให้รู้ก่อนว่าสนใจใคร อยากมีอะไรกับใคร อย่าให้รู้ทีหลัง ข้อ 2. (สำคัญมาก) อย่าเอาโรคภัยกลับมาที่ตัวคุณ ให้ฉันต้องดูแล หรือกลับมาใส่ฉัน”

เวลาผ่านไป แฟนของคุณโก้ ก็ปฏิบัติตามข้อตกลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ คุณโก้เล่าให้เราฟังในรายการฮอตไลน์สายสีรุ้งช่วงสัปดาห์วันวาเลนไทน์ ผมกับผู้ร่วมจัดรายการอีกสองท่านก็สุดจะทึ่ง เราช่วยกันยิงคำถามแบบไม่เกรงใจเลยล่ะครับ “แล้วไม่รู้สึกหึง หวงมั่งเหรอ”

“เขาจะไปปิ๊งใคร ก็ปิ๊งไป เขาก็จะมาบอกก่อน ไม่รู้สึก ไม่มีความจำเป็นต้องหึงหวงนี่ครับ ตราบใดที่เขาทำให้เรามั่นใจได้ว่า เราเป็นคนมี ‘ความสำคัญสูงสุด’ สำหรับเขา” เขาเล่าอย่างมั่นใจ

ปรัชญาง่ายๆ แต่เข้าใจยากในสายตาของใครหลายๆ คน ของเขาผู้นี้ก็คือ ต้องมีความไว้ใจกัน ถ้าคนเราไม่ไว้ใจกันแต่แรก ก็ไม่ควรอยู่ด้วยกัน ความไว้ใจของคุณโก้อยู่บนพื้นฐานที่ว่า คุณโก้ คือคนที่สำคัญที่สุดของแฟน หากเกิดวันใดที่แฟนกำลัง “ลั้นลา” กับกิ๊กอยู่ ถ้าเรียกกลับบ้าน แฟนต้องกลับทันที และที่ผ่านมาก็เป็นเช่นนั้น

“เพื่อนๆ ยังบอกเลยว่า ...แกประสาทหรือเปล่า (ที่ปล่อยให้แฟนทำอย่างนั้น) เราก็บอก เฮ้ย ไม่รู้อะไร เราไม่ได้เปิดโอกาสให้เขาอย่างเดียว เราเปิดโอกาสให้ตัวเราเองด้วย คนเรา ความคิดเห็น หรือรสนิยม ผ่านไประยะหนึ่งที่อยู่ด้วยกัน มันไม่เบื่อเหรอ?”

ก็จริงนะครับ ผมว่า แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า คุณโก้เองนั่นแหละที่ไม่ได้ทำอย่างนั้น เขาคิดย้อนไปว่า คงเป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งของตัวเขาที่อยู่คนละขั้วกับแฟน เพราะตัวเองไม่ได้รู้สึกมากมายอะไรเรื่องเซ็กซ์ ซึ่งผิดกัน “นั่นเขาเซ็กซ์จัด” โก้หัวเราะ และนี่จึงเป็นที่มาของอีกคำถามหนึ่งที่สำคัญ

“ถามจริงๆ เถอะ อยากรู้มานานแล้วว่า แล้วยังมีเซ็กซ์กันอีกมั๊ย” ผู้ร่วมจัดอีกท่าน “คุณโหนก” ถามขึ้นด้วยความสงสัยสุดขีด ถึงแม้คุณโหนกจะเป็นเพื่อนกับคุณโก้และแฟนหนุ่มมานาน บางที เพื่อนกัน ก็เกรงใจไม่ถาม แต่ถึงเวลารู้ ต้องได้รู้

“สามปีแรกก็มีกันนะ แต่ระยะหลังต่อๆ มา (ก่อนจะมีอะไรกัน) ต้องโดนเนื้อโดนตัว แตะกัน ต้องมีจับมือ แขน โดนกัน และเราจะได้มั่นใจว่า หัวกะไส้ ต้องอยู่ด้วย” คุณโก้หัวเราะ

สมัยที่ยังหนุ่มฉกรรจ์ หลังจากได้พบกันครั้งแรกโดยบังเอิญในงานการกุศลแห่งหนึ่ง สองสามวันต่อมา ทั้งสองก็แทบกระโจนเข้าหากันทันที และในสมัยนั้น คุณโก้เล่าว่า มีใครเข้ามาในชีวิตก็ต้องคว้าไว้เพราะไม่รู้ว่า เกย์คนอื่นๆ อยู่ตรงไหนกันหมด เรียกว่าหายากพอดู ชีวิตของทั้งคู่จึงเหมือนถูกกำหนดไว้แล้ว เหมือนเพลงๆ หนึ่งชื่อที่เขาบอก “Written in the stars” เหมือนชีวิตถูกลิขิตขึ้นมาก่อนแล้ว

เขายังเล่าต่อ มีบางครั้งขนาดขับรถพาแฟนที่ไปเที่ยวบาร์ด้วยกัน แล้วแฟนขออ็อฟเด็กออกมา เขาก็ยินดีขับรถไปส่งโรงแรมให้ เพราะตอนมานั่งมาคันเดียว แถมออกเงินให้อีกต่างหาก สมัยยังหนุ่มแน่นหนหนึ่ง คุณโก้บอก เจอใครน่ารัก เขาก็พามาดำเนินการ “เราสามคน” กับแฟนที่บ้าน ก็เคยทำมาแล้ว

อีกคำถามหนึ่ง อยากรู้ “กับใครๆ ที่ชอบพูดว่า เกย์ไม่มีกรักแท้ และรักของเกย์มักจะล่มอยู่เสมอ
ล่ะ คิดยังไง?”

“เขายังไม่เจอเท่านั้นเอง เกย์ไม่ใช่เชื้อโรค เกย์คือคน ตราบใดก็ตามที่คนมีความรู้สึกใดๆ ที่เหมือนคนทั่วไป เราก็ต้องมองว่า ตัวเราก็เหมือนคนทั่วไป เรารู้สึกเหมือนคนทั่วไปได้เหมือนกัน”

และอีกแง่คิดหนึ่งที่สนใจไม่น้อย เผื่อไว้ เขาแนะว่า สำหรับตัวเขาเองแล้ว “เมื่อเกิดความคาดหวัง คาดหวังเมื่อไหร่ จะผิดหวัง แต่ถ้าคนเราไม่คาดหวัง มันจะเป็นเซอร์ไพรซ์”

-end-
All rights reserved.

11 comments:

Anonymous said...

เป็นคู่ที่successในแนวทางนี้ น่าชื่นชมครับ แต่คนอ่านต้องเข้าใจว่า มีปัจจัยและเงื่อนไขของความสำเร็จนี้มากมายที่ไม่ได้ถูกบอกเล่า ไม่ใช่ทุกคนหรือทุกคู่จะทำได้ซึ่งผมคิดว่า"น้อย"(พอๆกับชาย-หญิงที่อยู่แบบopenแบบกลายๆ คือผู้หญิงทำไม่รู้ไม่เห็น และไม่มีพยานผู้รู้เห็นการอยู่กินกัน)ถ้าแฟนคุณโก้ไม่ใช่คนๆนี้-รูปแบบนี้อาจไม่เกิด หรือไม่success
แต่สามารถนำหลักมาประยุกต์ใช้ได้ เช่น การรักอย่างปล่อยวาง หรือ การไม่ตั้งความหวัง(จะได้surprise!)

ไม่ทราบว่ารายการวิทยุออกอากาศที่คลื่นไหน เวลาอะใดครับ (เชยไปไม๊นี่)

Anonymous said...

ตอบและขอประกาศให้ท่านผู้อ่านทราบครับ
รายการวิทยุ ตอนนี้ เปลี่ยนเวลาออกอากาศ
***เป็น 4 ทุ่ม ถึง เที่ยงคืน ทุกวันเสาร์ครับ***

ฟังทาง www.nationradioonline.com
คลิก FM 98.75

(แล้วคุณ cyui คิดว่า อยากจะ open
บ้างหรือเปล่าครับ เมื่อถึงเวลา)

วิทยา

Anonymous said...

อย่างน้อยผมกะแฟน ก้อเดินมาครึ่งทางของคุณโก้ เราคบกันมากว่า 8 ปี ก้องงเหมือนกันที่คบกันมานาน และยังคบกันอยู่ ยังมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน แม้บางช่วงเวลาเราจะอยู่ห่างกันหลายพันไมล์ แต่เราก้อเติมเต็มความรู้สึกที่ดี เป็นกำลังให้กัน ด้วยเราเรียนหนังสืออยู่คนละแห่ง ปีหนึ่งอาจได้เจอกันเพียงหนึ่งครั้ง ผมไปหาเค้า หรือเค้ามาหาผม แต่ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันตลอดหนึ่งเดือนของ การปิดเทอมในแต่ละปี ก้อเป็นช่วงเวลาที่ดีและมีความสุขระหว่างเราสองคน

ในกรณีที่ผมไปมีอุบัติเหตุกับใครระหว่างทาง ผมก้อจะบอกเค้าทุกครั้ง แต่ก้อพยายามที่จะไม่ให้เกิดขึ้นนะคับ แต่ยังไงเค้าก้อเป็นคนสำคัญที่สุดเสมอ..

Anonymous said...

หวัดดีคร้าบ

ตั้งตารออ่านตั้งแต่วันอาทิตย์ สงสัยพี่ยอดยังยุ่งอยู่กับงานเปิดตัวซีดี ไม่เป็นไร ไม่ว่ากัน

ผมเห็นด้วยกับ cyui ที่คู่นี้เข้าใจกัน และผมก็ว่าแฟร์ดีนะครับที่ตกลงกันก่อนสำเงื่อนไขทั้งสองข้อนั้น เหมือนบทความนี้กำลังบอกอยู่ว่า(หรือผมตีความเอาเอง) "การที่คนสองคนรักกันและตกลงอยู่ด้วยกัน เรื่องเซ็กส์ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ก็ขาดไม่ได้" - - - ผมรักคุณคนเดียว แต่ขอมีเซ็กส์กับคนอื่นด้วยนะ

มีศัพท์เรียกความสัมพันธ์แบบนี้ว่า open relationship หรือเปล่าผมไม่ค่อยแน่ใจ แต่คงตรงข้าม Monogamy

ความสัมพันธ์แบบนี้อาจจะเข้าทำนอง รักได้แต่อย่าไปคิดว่าเขาเป็นของเรา และเราก็ไม่ได้เป็นเจ้าของใคร เรา/เขามีสิทธิที่จะรักหรือไม่รัก หากเลือกที่จะรักแล้วสิ่งใดที่ตามมาก็ต้องรับมือให้ได้ แต่คงต้องใช้ปัญญา+เหตุผลด้วยในการรัก ไม่งั้นความรักอาจจะทำให้ตาบอดได้

ผมพูดง๊ายง่ายเนอะ แต่ยากสำหรับบางคนโดยเฉพาะใจที่ต้องเข้มแข็ง ผมก็พอแสดงความคิดเห็นเรื่องของคนสองคนได้เพียงเท่านี้ เพราะคู่นี้ใช้เวลาถึง 17 ปี มันยังต้องมีอะไรอีกเยอะที่เราก็ยังไม่รู้ คงต้องรอพี่ยอดมาเล่าต่อเอง

;)

Anonymous said...

หวัดดีคร้าบ

ตั้งตารออ่านตั้งแต่วันอาทิตย์ สงสัยพี่ยอดยังยุ่งอยู่กับงานเปิดตัวซีดี ไม่เป็นไร ไม่ว่ากัน

ผมเห็นด้วยกับ cyui ที่คู่นี้เข้าใจกัน และผมก็ว่าแฟร์ดีนะครับที่ตกลงกันก่อนสำเงื่อนไขทั้งสองข้อนั้น เหมือนบทความนี้กำลังบอกอยู่ว่า(หรือผมตีความเอาเอง) "การที่คนสองคนรักกันและตกลงอยู่ด้วยกัน เรื่องเซ็กส์ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ก็ขาดไม่ได้" - - - ผมรักคุณคนเดียว แต่ขอมีเซ็กส์กับคนอื่นด้วยนะ

มีศัพท์เรียกความสัมพันธ์แบบนี้ว่า open relationship หรือเปล่าผมไม่ค่อยแน่ใจ แต่คงตรงข้าม Monogamy

ความสัมพันธ์แบบนี้อาจจะเข้าทำนอง รักได้แต่อย่าไปคิดว่าเขาเป็นของเรา และเราก็ไม่ได้เป็นเจ้าของใคร เรา/เขามีสิทธิที่จะรักหรือไม่รัก หากเลือกที่จะรักแล้วสิ่งใดที่ตามมาก็ต้องรับมือให้ได้ แต่คงต้องใช้ปัญญา+เหตุผลด้วยในการรัก ไม่งั้นความรักอาจจะทำให้ตาบอดได้

ผมพูดง๊ายง่ายเนอะ แต่ยากสำหรับบางคนโดยเฉพาะใจที่ต้องเข้มแข็ง ผมก็พอแสดงความคิดเห็นเรื่องของคนสองคนได้เพียงเท่านี้ เพราะคู่นี้ใช้เวลาถึง 17 ปี มันยังต้องมีอะไรอีกเยอะที่เราก็ยังไม่รู้ คงต้องรอพี่ยอดมาเล่าต่อเอง

;)

Anonymous said...

สาวอิสานรอรัก

งดออกความเห็นค่ะ
โดยส่วนตัว สาวอิสานรอรักไม่เห็นด้วยประการทั้งปวง
เพราะ

พ่อแม่ของสาวอิสานรอรัก มักจะได้รับเชิญไปเป็นผู้ให้โอวาสแก่ คู่บ่าวสาว ในวันส่งตัวเข้าหอ สาวอิสานรอรักก็จะมักได้ยืนอยู่แถวๆ นั้นๆ
ในทุกที ทุกงาน พ่อแม่จะพูดประโยคเดียวกันเสมอ คือ
"ผัวเดียว เมียเดียวนะลูก"

ที่อ่านๆมา มันไม่เข้ากับทัศนคติของสาวอิสานรอรักโดยทั้งปวง เลยงดออกเสียงค่ะ

หรือพวกคุณๆ จะคิดว่า การที่ ชายเอาชาย แล้ว ชายรัย ไม่ใช่ผัวเมียกัน?

Anonymous said...

แก้ไข
หรือพวกคุณๆ จะคิดว่า การที่ ชายเอาชาย แล้ว ชายรัย ไม่ใช่ผัวเมียกัน?
เป็น
หรือพวกคุณๆ จะคิดว่า การที่ ชายเอาชาย แล้ว ชายรักชาย ไม่ใช่ผัวเมียกัน?

สาวอิสานรอรัก

Anonymous said...

หวัดดีอีกครั้งครับ
ตอบคุณวิทยา
ผมถือว่าopen relationship เป็นทางเลือกข้อสุดท้าย เพราะยังเชื่อว่า
1.sexเป็นเครื่องมือของความรัก ไม่ว่าใครจะใช้มัน อาจเป็นความเหงา คน หรือ สัญชาตญาณ ก็ไม่ทรงประสิทธิภาพสูงสุดเทียบเท่าเมื่อความรักเป็นผู้ใช้มัน สรุปว่าsexกับคนที่รัก ดีกว่า มันกว่า เจ๋งกว่าและทุกๆกว่า sexกับคนที่หล่อที่สุด รูปร่างดีที่สุด ฟิตเปรี๊ยะที่สุด... พิสูจน์แล้ว (โปรดใช้วิจารณญาณ..555)
2.ถ้าเราเป็นคู่กัน มันต้องลงตัวและเติมเต็มกันและกันมากกว่าใครๆ และในที่สุดแล้ว "เรามีความสุข" การมีคนอื่นเป็นความเสี่ยงที่สูงมากต่อ "เรามีความสุข"

ผมเคยมีแฟนที่วิเศษที่สุด(เพราะรู้สึกว่า เราอาจจะไม่เจอคนที่ดีเช่นนี้อีก และเราคิดแบบนี้ทั้งคู่) แต่เรากำลังจะเลิกกันเพราะเรื่องsex(หลังจากพยายามแก้ไขเอง และปล่อยให้เวลาช่วยแก้ไข) ผมเลยถามเขาถึงการมีopen relationship เขายังไม่ได้ตอบอะไร แต่เป็นผมเองที่ขอไม่เลือกทางเลือกนี้ เพราะเรายังเป็น”เพื่อนสนิทที่เคยรักกัน”ได้ ซึ่งดีกว่าเป็นคนที่ยังรักกันอย่างไม่มีความมั่นคง และทำให้คนที่เรารักเป็นทุกข์เพราะเราเป็นอย่างที่เราเป็น

Anonymous said...

open relationship คำเดียว อธิบายได้ทุกสิ่งค่ะ เป็นคู่ที่ใจกว้างมากๆ ที่สำคัญ คบกันมา 18 ปี ว้าว ยาวนานมากๆเลย พี่วิทย์ เราซื้อ rbb th movie มาแล้วนะ แต่ยังไม่ได้ดูเลย กรรม ไม่มีเวลาค่ะ ยังไงจะเมล์ไปเม้าท์นะคะ ถ้าดูจบแล้ว อ้อ อย่าลืมเล่าบรรยากาศงานมิตติ้งเมื่อวันเสาร์ด้วยนะคะ อยากรู้ว่าเป็นไงมั่ง เพราะอยู่ ตจว ไม่มีโอกาสได้ไป

Anonymous said...

สวัสดีครับ หลากหลายความคิด หลากหลายมุมมอง
และก็หลากหลายความรู้สึกนะครับ คนสองคนจะอยู่
ด้วยกันได้ มีหลายๆ ปัจจัยมาก ยิ่งเราไม่เคยรู้ ไม่เคย
รับทราบ ไม่ค่อยได้เห็น เราก็จะขาดข้อมูล และบางครั้ง
ทำให้ยากจะเข้าใจกัน แค่คำว่า รัก คำเดียว เรายังมี
ความหมายแตกต่างกันเป็นร้อยเป็นพัน ส่วนคำว่า
เซ็กซ์ จะมีความหมายเดียวอย่างนั้นหรือ อันนี้เปิด
ประเด็นไว้ให้ขบคิดกันต่อไปจ้ะ
วิทยา

Anonymous said...

คุณ Big ส่งเมล์มาครับ เลยเอามาแปะ

คุณวิทยาเขียนได้ดีครับ
อ่านแล้วคุ้นมาก เพราะเคยได้รับรู้เรื่องแบบนี้มาก่อน
เช่นกัน

ลองคิดเล่นๆ
เอาตัวเองเข้าไปในความรู้สึก+สภาพการณ์แบบนี้
ผมรู้สึกว่ามัเป็น dilemma มากๆเลยนะ
ยอมรับว่าจินตนาการไปไม่ถึง

เอาง่ายๆ สำหรับคนที่เข้ามาเป็น"กิ๊กใหม่"ของแฟนคุณโก้
นอกเหนือจาก good sex ..
ถ้าเกิดเขามีใจให้แฟนคุณโก้มากๆ ... กิ๊กใหม่ -
จะรู้สึกอย่างไร
แน่นอนเขามาทีหลัง
แต่การมาทีหลังก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีค่าพอนี่ครับ
เขาควรทำความเข้าใจว่าอย่างไร
มากกว่านั้น คือ เขาจะ"ทน" ได้นานแค่ไหน ?
และถึงที่สุดแล้ว เขาจะต้อง"ทำใจ"อย่างไร

มาคิดๆดู ในชีวิตจริง
คิดว่าเป็นรูปแบบสัมพันธภาพที่หมิ่นเหม่ต่อการ-เปลี่ยนแปลง/เปลี่ยนไป-เป็นอย่างยิ่ง


อย่างไรก็ตาม 18
ปีที่ทั้งคู่ไม่ได้มีใครใหม่เป็นตัวตนจริงจัง
คงเป็นเรื่องของโชควาสนา

ใครที่อ่านแล้ว และหวังว่า น่าจะมีคู่อย่างคุณโก้และแฟน
18 ปีแบบคุณโก้ละก็ .. ขอให้โชคดี
ข้าพเจ้าขอเป็นกองเชียร์อยู่ห่างๆ

สรุป - ผมมีความคิดคล้ายๆ คุณ สาวอิสานฯ นะครับ

“เมื่อเกิดความคาดหวัง คาดหวังเมื่อไหร่ จะผิดหวัง
แต่ถ้าคนเราไม่คาดหวัง มันจะเป็นเซอร์ไพรซ์”

เซอร์ไพรซ์เป็นเรื่องชั่วครั้งชั่วคราวครับ
เชื่อเถอะครับ ว่าใน สัมพันธภาพของคน 2 คน
ที่ถึงขนาดมาใช้ชีวิตร่วมกันนั้น
มันควรจะต้องมีความคาดหวัง หรือ
ทัศนะบางอย่างที่ไปด้วยกันได้
ความไว้ใจที่คุณโก้บอก คือ"ความคาดหวัง"ที่ชัดเจน

big