Sunday, October 29, 2006

"โดม" ผู้ชายสามโลก

เลิกแอบเสียที วิทยา แสงอรุณ Metro Life นสพ. ผู้จัดการวันเสาร์ vitadam2002@yahoo.com
28-29 Oct 2006

จะมีสักกี่คนที่รู้ว่า ในโลกเรา ผู้ชายที่ “มีเมีย” แล้ว อาจจะมีพฤติกรรมที่ไม่ใช่และไม่ได้เป็นอย่างที่เห็น?

“โดม” เป็นน้องใหม่ ในแผนกการตลาดของบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ดูจากภายนอกแล้ว ใครๆ ก็จะเห็นว่า เขาก็เหมือนผู้ชายทั่วๆ ไป คนหนึ่ง

เขาเป็นคนอัธยาศัยดี คุยกันได้สักพัก ผมก็พบอีกว่า เขาเป็นอีกคนหนึ่งที่มี “อาวุธร้าย” แอบซ่อนอยู่ นั่นคือ รอยยิ้ม รอยยิ้มของโดมนั้นเปิดกว้าง ริมฝีปากด้านบนจะเป็นเส้นตรง ทำให้เขาดูเหมือนคนมุ่งมั่น เวลาเขายิ้ม จะเผยให้เห็นซี่ฟันที่เรียงกันเรียบเป็นระเบียบ ทุกๆ ซี่ดูร่าเริง และเชื้อเชิญ

เราสนทนาเรื่องราวและมุมมองชีวิตของเขาไปพักใหญ่ จนเวลาล่วงไปสองชั่วโมงกว่าแล้วโดยที่ผมแทบไม่รู้ตัว เขาบอกว่า เขายังเล่าไม่จบ ที่เพิ่งบอกไปเป็นแค่เสี้ยวหนึ่งของชีวิตเขาเท่านั้นเอง

สำหรับหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ อย่างโดม เรื่องราวที่เกิดขึ้นกลับมีมากมายต่อเนื่อง เรียกว่า “เป็นเรื่อง” ได้ไม่หยุดหย่อน จนผมชักสงสัยว่า มันเกิดขึ้นเอง หรือเขาเป็นผู้ตั้งใจแสวงหาและสร้างให้มันเกิด โดยเฉพาะ “ประสบการณ์กับผู้ชาย” ด้วยกัน?

ก่อนที่เขาจะเริ่มเล่าเรื่องอื่นต่อไปในวันนั้น ผมต้องบอกเขาว่า วันนี้ สงสัยคงต้องพอก่อน มันล้น...

ที่ทำงาน...โดมเป็นคนคล่องแคล่ว หลักแหลม และมีความเป็นผู้นำสูง เขามักจะได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่ให้ทำงานสำคัญๆ อยู่เสมอ เริ่มงานใหม่ได้ไม่นาน เขาก็ได้รับมอบหมายให้ย้ายไปประจำ ณ เมืองท่องเที่ยวชายทะเลแห่งหนึ่ง เพื่อเปิดตลาดใหม่ให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท

เขาไปพักรวมกับเพื่อนพนักงานคนอื่นได้สองสามวัน บ้านพักไม่ค่อยสะอาดนักและคนอยู่แออัด เขารู้สึกอึดอัดไปด้วย

คงเป็นชะตาฟ้าลิขิต หัวหน้างานของเขา “พี่วิชัย” แม้จะเป็นคนดุ ลูกน้องกลัวและยำเกรงกันทั่ว กลับบอกเขาให้ย้ายมาพักด้วยกันได้

เขาได้นอนห้องเดียวกันกับหัวหน้า บนเตียงผ้าใบแบบพับเก็บได้ ส่วนหัวหน้านอนบนเตียง หลายเช้ามาแล้ว โดมสังเกตเห็นว่า หัวหน้ามักจะมีอาการ “เรียกร้องความสนใจ” อย่างประหลาด อย่างในเช้าวันนี้ เขาเห็นมือข้างหนึ่งของพี่วิชัยกำลังล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้น แล้วมันก็อยู่ในท่านั้นเสมอ เหมือนกำลังส่งสัญญาณให้เขา

ตามปกติ หลังเลิกงาน พี่วิชัยและลูกน้องมักจะกินดื่มกันจนเมาพอได้ที่ เมื่อลูกน้องคนอื่นๆ กลับกันไปหมดแล้ว “พี่วิชัย” หัวหน้าหนุ่มใหญ่วัยสามสิบต้นๆ ของเขา ซึ่งคงสร่างเมาบ้าง อยู่ดีๆ ก็บอกให้เขาช่วยทาแป้งให้ หลังจากอาบน้ำเสร็จ

“วันนั้นผมทำตัวไม่ถูกเลยครับ เขาเป็นเจ้านายผมด้วย ผมทั้งนับถือ แต่ก็รู้สึกว่า เขาน่ารักตั้งแต่แรกที่เห็น ตอนนี้ เขาอยากจะทำอะไร ผมก็ต้องยอมหมด” โดมพบว่า การมีอะไรกับพี่วิชัยเป็นอะไรที่สุดยอดมากสำหรับเขา

พี่วิชัย แต่งงานแล้ว และมีลูกสองคนอยู่กรุงเทพฯ

เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ เขารู้สึกมีชีวิตชีวากับภาระหน้าที่ใหม่ของเขา ในฐานะลูกน้อง ในฐานะที่เป็นรุ่นน้อง และในฐานะผู้ร่วมเตียง เขายินดีทำทุกอย่างให้พี่วิชัย เขารับหน้าที่ทำความสะอาดบ้าน ทำกับข้าว ล้างจาน ขัดรองเท้า ซักผ้าทุกชิ้นของพี่วิชัย ไม่เว้นแม้แต่กางเกงใน เขาไม่รู้สึกว่า ตัวเองต่ำต้อย หรือไร้ศักดิ์ศรี เขารู้สึกมีความสุขที่ได้ทำ

“ผมจะทำอะไรก็ได้ครับ เพื่อจะได้อยู่กับเขา ผมอยู่กับพี่เขาแล้วมีความสุขมากครับ บนเตียง เราทำกันแทบทุกอย่าง สุดเหวี่ยงไปเลย บางครั้งก็เอาหนังโป๊มาดูกัน แล้วก็ทำตาม ผมว่า ทำมาหมดแล้วมั้ง ผมยังเคยบอกรักพี่เขาไป พี่เขาชอบเป็นฝ่ายรุก ผมก็ยอม”

วันหนึ่ง คำสั่งใหม่ของสำนักงานใหญ่มาถึง พี่วิชัยต้องย้ายไปอยู่จังหวัดหนึ่งในภาคอีสานเพื่อเปิดตลาดใหม่ โดมยังคงต้องอยู่ที่เดิมต่อไป แต่ด้วย “กำลังภายใน” ที่พี่วิชัยมี เขาสามารถทำให้บริษัทออกจดหมายมาอีกฉบับหนึ่ง เป็นคำสั่งให้โดมต้องย้ายไปที่นั่น เพื่อเขาทั้งสองจะได้อยู่ด้วยกัน ความฝันของโดมคงได้ไปสานต่อที่นั่น แต่คราวนี้ กลับมีคนอื่นมาร่วมฝันด้วยอีกคน

ที่บ้านใหม่ เขามีเพื่อนบ้านคนหนึ่ง เป็นผู้หญิง ผู้หญิงคนนั้นคงไม่ได้ล่วงรู้ถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งของผู้ชายสองคนข้างบ้าน และคงจะจริงเช่นนั้น เพราะภายนอกแล้ว ใครๆ ก็เห็นว่า ทั้งสองคนเหมือนเจ้านาย-ลูกน้องที่มีความสนิทสนมกันเพราะอยู่บ้านเดียวกัน บางครั้งก็พูดจาโผงผาง เสียงดัง ออก “แมน” ซะ...ใครจะเชื่อ?

เพื่อนบ้านสาวเจ้าเสน่ห์คงอดใจไม่ไหวเมื่อเห็นหน้าพี่วิชัย และแล้วในวัน “ดีเดย์” โดมก็พบว่า เพื่อนบ้านไม่ได้มาขอหยิบยืมหม้อไหหรือกะลามังที่บ้านของเขา แต่กลับมาปรุงอาหารให้เจ้าของบ้านกินถึงเตียง

โดมถึงกับน้ำตาตกที่รู้ว่า พี่วิชัยก็พออกพอใจฝีมือปรุงรสของหล่อน แต่เขาก็ยอมอดทน แม้ในใจจะร้อนเป็นไฟทุกครั้งที่เห็นหน้าหล่อนโผล่มา แต่ทำไงได้ ในสายตาของใครๆ เขาเป็นลูกน้อง เป็นคนสนิทของพี่วิชัย อีกอย่างเขาทั้งเคารพและรักพี่วิชัยมาก เขาบอกตัวเองว่า ต้องอดทนต่อไป

ช่วงนั้น โดมมีงานแต่งงานของเพื่อนคนหนึ่ง เขารู้สึกดีที่ได้ห่างจากพี่วิชัยไปสักพัก มีงานบุญอย่างใหญ่โตในงาน และใครๆ ก็มาช่วยกันลงแขกกัน แขกทุกคนเลยได้เจอหน้าและทำความรู้จักกัน ในครั้งแรกที่เขาได้พบกับ “สุชาติ” เพื่อนเจ้าบ่าว หลังจากได้ยินชื่อมานาน โดมก็รู้สึกสนิทสนมคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก

ในคืนวันนั้น กลุ่มแขกผู้หญิงจะนอนอยู่ฟากหนึ่ง และแขกผู้ชายจะนอนกางมุ้งอยู่อีกฟากหนึ่ง มีมุ้งสีขาวกางเป็นตับทั่วบริเวณ โดมเพิ่งร่ำสุรากับเพื่อนไป แล้วเขาก็ไม่รู้ว่า ตัวเองต้องนอนมุ้งไหน ด้วยความเมา เขาก็ต้องมั่วนิ่ม

ในมุ้งที่เขาเลือกพุ่งตัวเข้าไปนั้น เขาพบว่า สุชาติกำลังนอนหลับใหลอยู่ (โดมยืนยันว่า ไม่ได้เล็งไว้เลย...) เขาสงสัยมานานแล้วว่า จะเป็นยังไง ถ้าเขาจะ “ลองดู” ด้วยอากาศเย็นลงมากแล้ว เขาก็กระซิบบอกสุชาติว่า “เออ...ผมหนาวครับ ขออยู่ใต้ผ้าห่มด้วยคนนะครับ”

แล้วคืนนั้น เขากับสุชาติ ก็พบความสุขบางอย่างด้วยกัน

ห่างออกไปไม่ไกลจากมุ้งของสุชาติ ในอีกมุ้งหนึ่ง เมียของสุชาตินอนหลับใหลอยู่ตรงนั้น

ที่จังหวัดทางภาคอิสาน สาวเพื่อนบ้านยังคงแวะเวียนมาหาพี่วิชัยไม่เลิกรา โดมรู้ว่า หัวใจช้ำๆ ของเขา คงถึงเวลาต้องได้รับการพักฟื้น ช่วงนั้น บริษัทกำลังมีปัญหากับสาขาทางภาคใต้ ต้องการมือดีไปช่วย โดมและเพื่อนอีกสองสามคนได้รับคำสั่งด่วนแบบสายฟ้าแลบ วิ่งลงใต้ทันที เขารู้สึกดีที่ได้ห่างจากพี่วิชัยอีกครั้ง

ที่นั่น เขาก็ได้พบกับรุ่นพี่อีกคนหนึ่ง โดยตำแหน่งจะเป็นหัวหน้างานชั่วคราวของเขา เขาไม่รู้หรอกว่า คนที่เขาจะไปพบหน้าตาเป็นยังไง เพียงแต่เจอครั้งแรก เขาก็รู้ว่า น่ารักดี เพราะเป็นหนุ่มเซอๆ ตี๋ๆ แต่ฟังฟังเพลงเพื่อชีวิต สเปคเขาเลย

และแล้ว ด้วยโชคชะตาฟ้าลิขิต โดมต้องไปพักที่บ้านพักส่วนตัวของ “พี่ศักดิ์”

“พี่เขาหล่อมากเลยครับ แล้วก็รู้สึกเหมือนเขาจะดีกับผมเป็นพิเศษ ตอนนั่งกินข้าวกัน ก็ให้ผมนั่งข้างๆ เขา ผมแทบอดใจไม่อยู่ พอถึงเวลานอน ดูพี่เขาเมาๆ พี่เขาก็ใจกว้างให้ผมนอนด้วยกันบนเตียง เขาใส่กางเกงขาสั้นน่ะครับ ไม่ใส่เสื้อ ผมก็เลยไม่ใส่เหมือนกัน คือ...เผื่อว่า ขาเราจะได้โดนกันไงพี่” เขาพูดไปหัวเราะไปอย่างอารมณ์ดี

แล้วในคืนนั้น ขาของเขาทั้งสองของเขาก็ได้พบกันแบบเปลือยๆ จริงๆ ผมชักสงสัย วิธีการ “เข้าหา” ของโดมกับคนที่นอนอยู่ข้างๆ เลยต้องซักเพิ่มเติมอีกซักหน่อย เขาเลยเผยว่า ปกติ เขาเป็นคนไม่ชอบลักหลับใครหรอกนะ

“คือผมถ้าจะทำอะไรใครเขา ก็ขอให้เขารู้ตัวดีกว่า ดีกว่าที่เขาไม่รู้ตัว เพราะมันไม่ดีนะครับ ถ้าเขาไม่ชอบเราจะได้รู้เลยตรงนั้น แต่ถ้าทำตอนเขาหลับ เขาไม่ได้รับรู้ ผมอยากให้เขารู้ตัวว่า ผมทำอะไรเขาอยู่ วันนั้นผมก็เลยค่อยๆ เอามือวางบนแผ่นอกพี่เขาก่อน แล้วค่อยๆ เลื่อนต่ำลงไป แบบว่า ให้เขารู้ตัวเลยล่ะ ถ้าเขาไม่ว่าอะไร ผมก็เลื่อนลงไปต่อ”

คืนนั้น มือของโดม ก็เดินทางถึงจุดหมาย แล้วเขาก็พบว่า ในมือของเขามีความแข็งแกร่งรออยู่อย่างล้นหลาม แต่ใจของเขาน่ะสิ เริ่มชั่งน้ำหนักระหว่าง “ไปต่อ” กับ “พอแค่นั้น”

ใครๆ ก็รู้ว่า พี่ศักดิ์ มีเมียแล้ว และยิ่งไปกว่านั้น เขาคิดว่า เขาควรต้องหักห้ามใจบ้าง เพราะเขาก็รู้จักแฟนของพี่ศักดิ์ดี และหล่อนเป็นคนดี และดีกับเขามาโดยตลอด

ในตอนเช้า สองหนุ่มทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ขณะที่พี่วิชัย กำลังค่อยๆ ถอยห่างออกไปจากชีวิตเขา เขาก็รู้สึกเหมือนมีความหวังขึ้นมาใหม่ แต่กับพี่ศักดิ์ เขาไม่คิดจะรุกมากไปกว่านั้น แม้พี่ศักดิ์จะออกปากให้เขาย้ายมาประจำแผนกที่พี่ศักดิ์ดูแลอยู่ ถ้ามันจะ “déjà vu” เป็นเรื่องราวซ้ำซ้อนกันอีกละก็ โดมคิดว่า เขาได้เรียนรู้อะไรมาบ้างแล้ว

การมีอะไรกับคนในทีทำงานเดียวกัน มันทำให้เจ็บได้ จากประสบการณ์กับพี่วิชัย เขายังคงคิดถึงเรื่องนั้นอยู่ตลอดถึงวันนี้

จริงๆ แล้วตอนอยู่ด้วยกันกับพี่วิชัย เขาไม่รู้ว่า ความสัมพันธ์ของเขากับพี่วิชัยจะไปถึงไหน เขารู้แต่เพียงว่า เขาไม่ได้คิดจะแย่งพี่วิชัยจากใครไป เขารู้ว่า เขาชอบผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ชายที่เมีย หรือมีแฟนแล้ว โดยเฉพาะผู้ชายห้าวๆ ยิ่งชอบ

“พี่ ผมเชื่อนะครับว่า ผู้ชายด้วยกันน่ะ มีอะไรด้วยกันได้ และไม่ต้องคิดมากอะไรถ้าจะไม่ต้องคิด ส่วนตัวผม ผมก็รู้ว่า ตัวเองชอบอะไร ผมคงหนีตัวเองไม่ได้”

โดมกลับมานั่งทบทวนชีวิตตัวเองอีกครั้ง ก็เขายังคงมี “หนิง” อยู่นี่ เพื่อนผู้หญิงสมัยเรียน เขามีอะไรกันแล้ว โดมไม่ได้ตะขิดตะขวงใจอะไรที่จะมีเซ็กซ์กับหนิง เขายืนยัน

ที่บ้านต่างจังหวัด แม่ของเขาคิดว่า คงจะมีสะใภ้เร็วๆ นี้แน่ โดมรู้สึกถึงความดีของหนิง ความน่ารักของผู้หญิงคนนี้ เขาคิดว่า เมื่อเขาหยุด “แสวงหา” อะไรๆ กับผู้ชายด้วยกันแล้ว สักวันหนึ่ง เขาคงจะแต่งงานกับหนิงก็ได้

-end-

All rights reserved.

5 comments:

Anonymous said...

เป็นเรื่องราวที่แปลกมากเลยครับ ตกลงเขาเป็นอะไรเนี่ย
แล้วเขาทำได้ยังไง "...ไม่ต้องคิดมากอะไร" อยาก
ไม่ต้องคิดมากเหมือนเขาบ้างจัง

ว่าแต่ถ้าเขาแต่งงานไปแล้ว ก็ยังมีอะไรกับผู้ชายด้วยกัน
ในแบบไม่ต้องคิดมากเหมือน พี่ๆหัวหน้างานของเขาน่ะ
อย่างนี้ถือว่านอกใจภรรยาหรือป่าว

มันเหมือนกับว่าผู้ชายออกไปเที่ยวยิงนกตกปลาด้วยกัน
แล้วก็กลับมาหาภรรยาเหมือนเดิม...หรือป่าวนะ


O1235

Anonymous said...

ไม่ต้องไปตกใจอะไรคับ typeนี้ซ่อนตัวอย่างมิดชิดและมีไม่น้อย อาศัยหากินโดยมีผู้หญิงเป็นหน้ากาก

เรื่องที่น่าถกเถียงคือ อะไรทำให้เขาเหล่านี้เลือกที่จะมีครอบครัวปกติไปด้วย(แม้แต่โดมที่รู้ตัวอย่างชัดเจนและชอบแบบนี้ ยังไม่คิดจะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)ผมว่านะ
1.สังคมยังไม่ยอมรับว่าคู่เกย์เป็นครอบครัว(คนเหล่านี้แคร์ภาพลักษณ์ในสังคมมั่กๆ)
2.เขาเชื่อว่าภรรยา(เรียกอีกอย่างว่าผู้หญิงที่แต่งงานด้วย)รักและเคียงข้างเขาเสมอ หรือเป็นของตายนั่นเอง นั่นทำให้เขามีโลกที่2,3ไปได้เรื่อยๆ และสังคมที่เขาแคร์ก็ไม่ประณามเขาถ้าเพียงเขามีครอบครัวถูกต้องแล้ว(เพราะสังคมมองว่าอย่างอื่นเป็นของไม่จริง เด๋วก็เลิก ยิ่งผู้ชายกับผู้ชายยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้)

แต่คนแบบนี้มีจุดอ่อนที่สุดคือ เมียเขาจะไม่ให้อภัยเขาเด็ดขาด และกลับเป็นศัตรูทันที เมื่อหมดความอดทน(ซึ่งน่าจะมีลำดับจากหมดความอดทนขั้นต้น-ขั้นรุนแรงดังนี้ 1.รู้ 2.ไม่มีsexกัน 3.มี(ผู้ชาย)อีกคนเป็นตัวตนชัดเจน 4.สังคมรอบข้างเพิ่งบอกว่ารู้มาก่อนแล้ว 5.ลูกรู้ และสุดท้ายคือมีหลักฐานชัดเจนแบบดิ้นไม่หลุด) แล้วหน้ากากที่เขาสวมก็จะหลุดออก ปราสาทที่เขาหลบพักอาศัยก็พัง และสังคมที่เขาแคร์ก็ละทิ้งเขา น่าสงสาร

และที่น่าสงสารกว่าคือทุกคนที่เขาหลอกลวงว่า"คุณเป็นตัวจริงของผมแต่...

ที่น่าสนใจ คือ ในสังคมเมืองคู่รักชาวเกย์เริ่มได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อเทียบกับ "สามีที่แอบมีผู้ชายอีกคน" เพราะพวกเรามีแนวโน้มที่จะมีคู่ถาวรมากขึ้น และสำส่อนน้อยลง

Anonymous said...

หวัดดีคับพี่วิทย์ แวะเข้ามาทักทายและให้กำลังใจอีกตามเคยนะครับ

อยากบอกว่า ประเด็นของคุณ "โดม" นี้ถูกใจผมซะจริงๆ เลย ซึ่งผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมผมจึงรู้สึกดีกับผู้ชายที่มีลูก มีภรรยาแล้ว จะรู้สึกดีมากๆ และชอบมากๆ ด้วย (จะโทษเวรโทษกรรมก็คงไม่ใช่ คงโทษตัวเองแล้วล่ะแบบนี้)
และผู้ชายที่เข้ามาติดผมส่วนมากก็จะไม่ใช่พวกเกย์ซะด้วย จะเป็นผู้ชายที่มีเมีย มีลูกแล้วทั้งนั้นเลย ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่

พยายามที่จะหาคำตอบให้กับตัวเองในเรื่องนี้มาก็นาน แต่ก็ไม่เคยเจอคำตอบนั้นเลย รู้อยู่อย่างเดียวว่า คนที่เข้ามาหานั้น แม้จะไม่ได้มาเพื่อมีสัมพันธภาพทางร่างกายกัน แต่มันก็ำทำให้ผมมีความสุขมากเหลือเกิน

การที่ได้รับความอาทร ห่วงใย จากใครบางคนที่เรารู้สึกดีด้วยนั้น มันมีความสุขมากนะครับ และถ้าหากว่าเราได้มีความสุขแล้ว เราก็คงไม่คิดหรอกว่าเค้าคนนั้นจะมีพันธะต่างๆ หรือเปล่า

"คุณโดม" ขอให้คุณโชคดีนะครับ ผมเองก็จะคอยเป็นกำลังใจให้คุณอยู่เสมอๆ ละกันนะครับ (แม้ว่าเราสองคนจะไม่เคยรู้จักกัน)

"เพรียกหาความรัก"

Anonymous said...

นิยายเรื่องนี้ ต้องยังไม่จบแน่ๆ เลยค่ะ
มันต้องมีภาคต่อๆๆไป เชื่อว่าอย่างนั้น

"เพราะใคร โลกถึงเป็นแบบนี้"

โดม ผู้ชายหกสิบเก้าโลก
(69 ตอนค่ะ)


สาวอิสานรอรักไม่สนับสนุน
ให้คุณมีพฤติกรรมแบบนี้ค่ะ

อ่านแล้วสะเทือนใจค่ะ

ความจริงก็มีเพื่อนที่เป็นแบบนี้เยอะค่ะ
เขาให้เหตุผลว่า
"ไม่เป็นไร ทำพ่อไม่ได้ทำเมีย ทำลูกเขา"

สังคมไทยกำลังประสบปัญหาเรื่องคุณธรรมแน่ๆ เลยค่ะ

ถอนหายใจ

Anonymous said...

ผู้ชายอย่างนี้มีอยู่จริงๆในโลกเหรอคะ ไม่อยากเชื่อ พี่วิทย์ เราสอบเสร็จแล้ว กลับมาเริงร่าเหมือนเดิม อ้อ เราส่งเมล์ไปหา ตอบด้วยนะคะ