30 Sept – 1 Oct 2006
อ้ะ! ไม่ได้เป็นหนังเรื่องใหม่นะครับ แต่เป็นคลิปวิดีโอสั้นๆ ที่เคยพูดถึงในบทความก่อนหน้านี้สองครั้งภายใต้หัวข้อเรื่อง “เรื่องอยากรู้บนเตียง” (ประกาศ...หากท่านจำไม่ได้ โปรดอ่านข้อมูลท้ายบทความเพื่อทบทวน “อีกครั้งหนึ่ง”)
คลิปวิดีโอที่ว่านั้น บัดนี้ถ่ายทำ ตัดต่อ เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยส่วนตัวนะครับ นอกจากอยากจะประชาสัมพันธ์งานชิ้นนี้ให้กว้างขวาง อยากให้มีคนแสดงความคิดเห็นเยอะๆ และอีกอยากหนึ่งก็คือ มันน่าจะเป็นประโยชน์ เมื่อได้บันทึกความทรงจำเล็กๆ นี้เอาไว้บนกระดาษหน้านี้เผื่อในอนาคต ใครก็ตามที่จะมาทำงานประเภทนี้จะได้มีข้อมูลประกอบ
คงคล้ายๆ กับทีมนักวิ่งผลัดละมั้งครับ ไม้ที่จะส่งนี้ ยังไงๆ ก็ต้องส่งต่อให้คนอื่นที่กำลังวิ่งในลู่เดียวกันกับเรา ให้เขาแซงเราขึ้นไป คนวิ่งนำหน้าจึงต้องวิ่งให้ดีที่สุด เพื่อท้ายที่สุด ทั้งทีมจะได้รับชัยชนะด้วยกัน
บนลู่วิ่งไหนๆ ก็ย่อมมีอุปสรรค ยิ่งเป็นลู่ที่เต็มไปด้วยอคติกีดขวางทางสังคม และอคติต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันที่พยายามกำหนดกฎเกณฑ์หินๆ ให้เหล่าเกย์ต้องวิ่งไป
บางทีเราก็ร้องโอดโอย บางทีเราก็ร้องไห้ ก็ร้องได้นะครับ....แต่ห้ามท้อ
“Making A Bed” เป็นคลิปวิดีโอที่น่าจะช่วยสร้างทัศนคติและความรู้สึกดีๆ ในหมู่ชายรักชายให้รักตัวเองมากขึ้น และรู้จักมอบความรู้สึกดีๆ ให้แก่กัน
ในต่างประเทศ เขาไม่รณรงค์กันในลักษณะนี้แล้ว แต่ในประเทศไทย ยังคงต้องมีลักษณะและเนื้อหาอย่างนี้อยู่ เนื่องจาก เรื่องชายรักชายและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ รวมถึงเรื่องเอช ไอ วี ต่างๆ เหล่านี้เพิ่งได้รับการบรรจุอย่างเป็นทางการในแผนเอดส์ชาติ เราจึงเพิ่งมายืนตรงจุดเริ่มต้น
ในฐานะครีเอทีฟหัวตีบ ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า งานที่ผลิตออกมาจะโดนใจผู้ชมแค่ไหน เขาจะรู้สึกดีขึ้นกับการใช้ถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่น “เป็นประจำ” หรือไม่?
โจทย์ที่รับมาในการสร้างสรรค์งานชิ้นนี้ก็คือ ทำยังไงให้กลุ่มเป้าหมายตระหนักถึงอัตราการติดเชื้อเอช ไอ วี ในหมู่ชรช ซึ่งในบ้านเราพุ่งกระฉูดจนไม่อยากจะเชื่อ รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมหมั่นตรวจสุขภาพทางเพศเป็นประจำ (นอกจากตรวจสุขภาพทั่วไป) และต้องให้กลุ่มเป้าหมายได้แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ และเข้าถึงได้ง่าย
ด้วยกรอบของสังคมไทย ทัศนคติ มายาคติ และบางครั้งก็เป็นเรื่องไม่ค่อยมีสติ เลยกำหนดให้ทีมผู้ผลิตงานชิ้นนี้ต้องระมัดระวัง ตระหนักและยอมรับว่า ความคิดเว่อร์ๆ ก่อนหน้านี้ อย่างเช่น อยากจะเห็นภาพผู้ชายกอดรัดฟัดเหวี่ยง หรือ “Make Love” กันจะๆ น่ะ คงเป็นไปไม่ได้ที่จะถ่ายทอดให้ “ทุกๆ ฝ่าย” รับได้ ทั้งๆ ที่ในใจอยากจะตะโกนบอกว่า
“ก็นี่เป็นงานที่เกย์ทำ ทำเพื่อเกย์ และให้เกย์ดู แล้วไง? (ฟะ)
เราเลยต้องอะลุ้มอล่วยกันไป จะทำอะไรตามใจทั้งหมดไม่ได้เพื่อให้งานนี้สำเร็จ ภาพที่ออกมาจึงเป็นภาพชายหนุ่มวัยยี่สิบกว่าๆ ในรักอันโรแมนติก
คนหนึ่งขนดก มีกล้ามพองาม ใบหน้าคมคายแบบไทยๆ เขาคงร้อน หรือไม่ก็เกิดทำเสื้อหายไป เลยไม่มีเสื้อจะใส่ คงไว้แต่กางเกงบอกเซอร์สีขาวลายเส้นสีฟ้าตัวบางๆ ตัวนั้น
ส่วนหนุ่มอีกคน ที่รับบทเป็นคู่รัก รูปร่างสมส่วน ออกตี๋นิดๆ ใส่เสื้อกล้ามพอดีตัว
ฉากเปิดตรงผ้าปูที่นอนปลิวไสว เผยให้เห็นกล้ามของหนุ่มขนดกที่กำลังจัดเตียง และใส่ปลอกหมอนอยู่ ส่วนหนุ่มตี๋ ซึ่งนั่งอยู่ห่างออกไป ดูเหมือนจะเพลิดเพลินกับการนั่งดูทีวี แต่สมาธิคงไม่อยู่หน้าจอ เขาคอยส่งสายตาให้กับหนุ่มขนดก นัยว่า
“จัดเตียงเสร็จเมื่อไหร่ จะจัดการนายเมื่อนั้นแหละ”
สักพัก หลังจากแลกสายตาและรอยยิ้มกันไปมา หนุ่มตี๋ก็ยืนขึ้น แล้วเดินตรงไปที่หนุ่มขนดก...
ที่เหลือนี้ต่อไปนี้ คงต้องให้ติดตามต่อกันเองนะครับในวิดีโอคลิปความยาวหนึ่งนาทีกว่าๆ
ตอนแรกคิดว่า เราอาจจะหาผู้เล่นลำบากเพราะต้องถึงเนื้อถึงตัวกันนิดหน่อย มีบทนอนหลับทับกันบนเตียง มีบทจุมพิตพอหอมปากหอมคอ ซึ่งความจริงแล้ว คนสร้างสามารถเลือกที่จะ “ปลอดภัยไว้ก่อน” ก็ได้ แต่คิดดูสิครับคุณผู้อ่าน ถ้าทำออกมาแล้วไม่โดนใจผู้ชม มัวแต่กลัวไปซะทุกเรื่อง คนดูดูแล้วไม่อิน คงเสียดายเวลาและพลังงาน
แม้จะเป็นเพียงการนำเสนอแบบ “เบาๆ” อย่างนี้นะครับ ผู้ตรวจรับงานต่างๆ ที่ขอให้ท่านแสดงความเห็น ก็เห็นแตกต่างกันไปเหลื่อเชื่อ ท่านหนึ่งบอกว่า “โป๊จัง” อีกท่านซึ่งเป็นสุภาพสตรีบอกว่า ดูแล้วรู้สึกเหมือน “โดนกระตุ้น”
ผมกับเพื่อนก็งงอยู่ว่าหมายถึงอะไรที่เธอว่าโดนกระตุ้น แต่ก็หวังว่า มันจะกระตุ้นต่อมรับผิดชอบของบรรดาชายรักชายที่ยังรักสนุกอยู่ให้รู้จักป้องกันตัวเองทุกๆ ครั้งได้บ้างนะ
นอกจากนี้ สิ่งที่เราหวังไว้ก็คือ เราอยากให้ผู้คนดาวน์โหลดวิดีโอคลิปนี้ ยิ่งโหลดมายิ่งดี แล้วยิ่งมีการส่งต่อๆ กันไป ก็จะยิ่งช่วยสื่อข้อความ และความห่วงใยไปถึงกันและกันมากยิ่งขึ้น
อีกท่านหนึ่งในที่ประชุม ท่านผู้อาวุโสกว่าท่านที่บอกเหมือนโดนกระตุ้น ท่านได้รับเชิญมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับงานชิ้นนี้ พอท่านดูจบ ก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ทีมงานของเราเลยเดาเอาว่า สงกะสัยท่านคงจะบ่จอยแล้วละมั้ง
ด้วยน้ำเสียงราบเรียบและสุภาพแบบผู้ใหญ่ ท่านตั้งคำถามว่า หากเด็กนักเรียน อย่างเด็กมัธยมดาวน์โหลดไปล่ะ จะว่าไง?
ผมเกือบจะเรียนท่านออกไปทันทีทันควันเลยนะครับว่า “ก็ดีสิครับ อัตราผู้ติดเชื้อเอช ไอ วี ในประเทศไทย ตอนนี้ เด็กลงเรื่อยๆ ถ้าเด็กมีปัญหาจะได้รู้ว่าจะหันหน้าไปหาใคร แล้วถ้าเป็นเด็กที่เป็นเกย์ คงหาคนคุยด้วยลำบาก”
แต่ผมก็ยังไม่ได้คัดค้านอะไรท่านอย่างนั้น ปล่อยให้ท่านแสดงความคิดเห็นต่อไป ด้วยเราจะได้แยกแยะก่อนว่า ความคิดเห็นของท่านตั้งอยู่บนพื้นฐานอคติทางเพศ หรือความไม่เข้าใจเรื่องเกย์เพราะเข้าใจอะไรผิดๆ อยู่หรือเปล่า
แล้วก็มีคำถามมาอีกสองสามคำถามตามมาติดๆ ผมเริ่มแปลกใจที่ว่า ทำไมท่านยังตั้งคำถาม “เบสิค” เกี่ยวกับเกย์อยู่อีกทั้งๆ ที่ท่านอยู่ในวงการเรื่องสุขภาพของคนกลุ่มนี้โดยตรง ท่านน่าจะ “รู้” นานแล้ว อย่างน้อยท่านน่าจะรู้ว่า การดู หรือชมอะไรที่เกี่ยวกับเกย์คงไม่ได้ทำให้คนๆ นั้นเป็นเกย์ไปได้ ท่านบอกว่า บางคนสับสนจะไปกันใหญ่
แล้วถ้าเกิดมีใครค้นพบตัวเองว่า เป็นเกย์ เขาก็คงเป็นอยู่ตั้งนานแล้วล่ะครับ ไม่ได้ “กลายเป็น” หรือ “เปลี่ยนไปเป็น” เพียงแต่เขาไม่ได้สืบค้นลงลึกไปถึง “ความรู้สึกที่แท้จริง” มาก่อน ดังนั้น ไม่ว่าอะไรก็ตามจะเปลี่ยน “sexual orientation” หรือ วิถีทางเพศ ของคนๆ หนึ่งไม่ได้ เอ...ผมพูดมากไปเปล่าเนี่ย แต่ท่านไม่ได้ยินหรอก
เพราะผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เชื่อเรื่อง “สิ่งแวดล้อม” ที่จะทำให้ใคร “กลายเป็น” อะไรไปได้ นอกจากคำๆ นี้ “vague” หรือคลุมเครือ-เลื่อนลอยแล้ว ยังเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีการพิสูจน์อะไรได้ ได้แต่พูดๆ กันไป เพราะส่วนหนึ่งน่าจะเป็น ความเคยชินเพราะเรา “ได้ยินต่อๆ กันมา” เราเลยพูดต่อๆ กันไป
ถ้าใครถือเอาสิ่งแวดล้อมเป็นตัวตั้ง ลองคิดดูเล่นๆ นะครับ ถ้าจับผู้ชายคนหนึ่งไปขังไว้ในห้องๆ หนึ่งแล้วมีรูปผู้ชายโป๊ เปลือย คนๆ นั้นคงกลายเป็นเกย์ไปได้ละมัง? ถ้ามีเกย์ กะเทยในจอทีวีเยอะๆ ลูกหลานคงเป็นเกย์ไปหมดประเทศ
แต่ถ้าจะพูดตามหลักความเป็นจริงนะครับ ถ้าเกิดพบว่า ลูก หรือหลานเป็นเกย์ แล้วมันผิดตรงไหน? ก็ในเมื่อเป็นเกย์ ไม่ผิด ไม่บาป ไม่ชั่วร้าย ไม่เป็นโรค แล้วอะไรกันแน่ ที่มันผิด? หรือผิดทางทัศนคติเพราะพื้นฐานมันผิด?
เสียดายล่ะครับ ความที่ต้องเป็นฝ่ายรับฟัง และด้วยความเคารพท่านผู้ใหญ่ต่างๆ ผมก็ต้องถนอมปากถนอมคำเอาไว้ แต่จริงๆ แล้วนะครับ สารภาพ วันนั้น งงที่ได้ยิน ตั้งตัวไม่ติด เพราะผมไม่คาดคิดมาก่อนว่า จะได้ยินคำถามเหล่านี้จากท่านผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้น...ไม่อยากจะเชื่อเลย...พับเผื่อยซี
สุดท้ายท้ายสุด ในย่อหน้านี้ ก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่เกี่ยวข้องนะครับ ตั้งแต่ผู้สนับสนุนให้ทำ ผู้ไม่สนับสนุน แต่ไม่คัดค้าน รวมทั้งทีมงานกองถ่าย และนักแสดงสมัครเล่นสองท่านที่เล่นได้อินกับบทบาทมาก ถ่ายทำกันเสร็จแล้ว ทั้งสองก็ยังดูร่าเริงสดใส
ไม่รู้ฝ่ายไหนแอบพอใจใครอยู่หรือเปล่านะ?
บอกต่อกันไป : Making A Bed: Public Service Announcement: รับชมได้ที่ www.bkktv.com ฝากคอมเม้นท์ไว้ที่ cyberfishmedia@yahoo.com หรืออยากจะเป็นนักแสดงในเรื่องต่อไป แจ้งความประสงค์ได้ ส่วนบทความเรื่อง ความเป็นมาก่อนจะเป็น Making A Bed ดูได้ที่ www.vitaya-home.blogspot.com มองหาบทความฉบับเดือนสิงหาคมทางขวามือ/ ข่าวแจ้งต่อๆ กัน รายการฮอตไลน์สายสีรุ้ง FM 95.75 ฟังทางเน็ต www.nationradioonline.com ย้ายวันและเวลาออกอากาศเป็น ทุกวันเสาร์ เที่ยงคืน ถึงตีสอง ผับปิดไปเรียบร้อย
All rights reserved.
5 comments:
แจ้งความประสงค์ได้เฉพาะนักแสดงหรือคะ?
ครีเอทีพคิดตอนต่อไปไม่รับบ้างเหรอคะ?
^^
มาสมัครเป็นช่างไฟ จัดแสงค่ะ
หึหึหึ
พึ่งมีโอกาสได้ดูน่ะครับ
แหะแหะ ผมเป็นอีกคนนึงแหละครับ ที่ดูแล้วเหมือน
ถูกกระตุ้น...
เหมือนกับว่าความสนใจทุกอย่างไปอยู่ที่ลีลาของ
นักแสดงซะหมด อิอิ
ว่าแต่เวลาถ่ายทำตอนหอมกันเนี่ย ต้องหอมกันแบบ
ว่าเอาจะจมูกลงไปบดบี้ที่แก้มกันขนาดนั้นเลยเหรอ
ครับ
แต่ตอนจูบคาง...ยังดูฝืนๆไปหน่อยนะ
ในที่สุดพี่วิทย์ก็ทำเสร็จ แล้วจะเข้าไปดูค่ะ พี่วิทย์ เราส่งเมลืไปหา เปิดอ่านด้วยนะคะ
ต้องการผู้ช่วยผู้กำกับใหมครับ? 55+
เดี๋ยวผมเทนส์นักแสดงให้เองงงงงงง
Post a Comment