Monday, April 16, 2007

คนไหนเป็นคนไหนล่ะ?

เลิกแอบเสียที วิทยา แสงอรุณ 14-15 เมษายน 2007

ตามคำบอกเล่า ที่อ่าวนาง จังหวัดกระบี่จะมีบาร์เบียร์สำหรับลูกค้าเกย์อยู่ที่หนึ่ง วันนั้นอากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว ผมกับเพื่อนเดินวนไปเวียนมาก็ไม่เจอ เพื่อนผมที่เดินตามหลังผม เริ่มมองหน้ากัน ส่งสายตาไม่ไว้ใจไกด์หลังแฉะอย่างผมที่เดินหันรีหันขวางอยู่ข้างหน้า

ชะแว้บ...

ผมหยุดกึ้ก เมื่อสายตาไปกระทบกับธงสายรุ้ง มันพลิ้วเบาๆ อยู่ในระยะไกลๆ ตรงหลืบแห่งหนึ่ง เหมือนใครบางคนกำลังกวักมือเรียกหยอยๆ

โหย…มาซ่อนอยู่ตรงซอกนี้เอง เราสาวเท้า ปรี่เข้าไปหาเลยทันที

“น้องๆ ทำไม มาอยู่ข้างในอย่างนี้ล่ะ…” ผมถามพนักงานหลังจากได้ที่นั่งเหมาะๆ มองไปรอบๆ ก็พบว่า เป็นบาร์เบียร์ที่มีขนาดกว้างคูณยาวแล้ว ไม่น่าจะเกิน 4X4 เมตร “…ทำตัวเหมือนหลบๆ ซ่อนๆ ทำไมไม่ไปเปิดร้านอยู่ข้างหน้าโน้นเลยล่ะ สง่าผ่าเผยดี”

พนักงานทำหน้างงๆ แล้วตอบว่า “ก็บางทีลูกค้าจับไม้จับมือ จู๋จี๋กัน จะได้ไม่เขินน่ะพี่”

อ้อ...ผมทำหน้าแสดงความเข้าใจ จริงๆ แล้ว ผมลืมไป ผมไม่ควรนึกภาพเปรียบเทียบยามราตรีของอ่าวนาง ณ. กระบี่ กับสีลม ณ. กทม.

ผมมากับเพื่อนอีกสองคน คนหนึ่งเป็นอดีตเกย์ขาแดนซ์ อีกคนเป็นหญิงสาวสวยผู้ที่ไม่เคยเที่ยวกลางคืนเลยในชีวิต แม้กระทั่งเรียนจบ และทำงานแล้ว ก็ตอนนี้ คุณแม่ของหล่อน ยังทำเหมือนเดิม คือนั่งรอจนกว่าลูกสาวคนสวยจะกลับถึงบ้าน เลยเป็นเหตุให้หล่อนไม่นิยมเข้าบ้านดึกดื่น แต่ที่นี่ ไม่มีคุณแม่

วันนี้เราสามคนตั้งใจจะมาสนุกสุดเหวี่ยงกันหลังจากเล่นน้ำจนตัวดำและนั่งบนเรือจนเบื่อแล้ว

สองโต๊ะในบาร์เล็กๆ แห่งนั้น มีแขกนั่งอยู่ก่อน โต๊ะแรก ดูเหมือนจะเป็นนักท่องเที่ยวฮ่องกง หรือไต้หวัน เขาไม่สนใจใครๆ แต่จดจ่ออยู่กับเกมอะไรบางอย่างที่ผลัดกันเล่นอยู่ งั้น..ไม่นับโต๊ะนี้ เพราะไม่มีสัญญาณอะไรมามอบให้กัน

อีกโต๊ะสิครับ เป็นหนุ่มยุโรปตัวโตสองคน กำลังนั่งคุยกัน พวกเขายิ้มให้เราแทบจะทันทีตอนที่มาถึง สงสัยคงดีใจมั้งที่มีคนมาเพิ่มในพื้นที่เล็กๆ ตรงนี้ สักพัก หลังจากสั่งดริ๊งค์กันจนครบแล้ว ผมเพิ่งสังเกตว่า เพื่อนอดีตขาแดนซ์ของผมที่เป็นรูมเมทในทริปนี้กำลังโปรยยิ้มข้ามฟากไปโต๊ะนั้น อีกครู่ เขาก็ขยิบตาให้หนึ่งในสองนั้นสำทับอีกที สงสัยคืนนี้ ผมต้องย้ายไปนอนห้องอื่นแล้วละมั้ง

บาร์เบียร์เปิดเพลงไปเรื่อยๆ หนักบ้าง เบาบ้าง เราอยู่ที่นั่นประมาณชั่วโมงกว่า เพื่อนผมเลิกขยิบตาแล้วล่ะ เพราะหนุ่มยุโรปคนนั้นไม่แสดงทีท่าจะเคลื่อนไหวใดๆ นอกจากลุกไปห้องน้ำหนึ่งครั้ง จนเพื่อนผมถอดใจไปเอง ส่วนเพื่อนสาวของผม ดูจะสนุกที่สุดในคืนนี้ ดูเหมือนเธอจะได้รับการปลดปล่อยจากอะไรบางอย่าง แม้จะชั่วคราวก็ตาม

สักพัก หลังจากดีเจตรงที่อยู่ในห้องเล็กๆ บนชั้นสองหันมาเปิดเพลงเอาใจกันเองให้กับพนักงานข้างล่าง พวกเขาเริ่มเต้นกันเอง ร่ายรำกันเอง เฮฮากันเอง คงลืมไปว่า มีลูกค้าคนอื่นอยู่ตรงนั้น เราเลยคิดว่า คงถึงเวลากลับซะที เพราะต่อไปพวกเขาอาจจะ “ได้” กันเอง

“ในกระบี่มีร้านเกย์เท่านี้เองเหรอ” เพื่อนผู้ผิดหวังของผมโอดครวญ ทำหน้าเซ็งสุดขีดหลังเดินออกมา

ผมนึกสงสัยว่า จำเป็นมั๊ยที่เป็นเกย์ แล้วต้องไปเที่ยวในที่ที่มีแต่เกย์? มันก็คง ไม่จำเป็น แต่ที่นี่ ที่อ่าวนาง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผับ มีบาร์อยู่มากมายสำหรับชายหญิงทั่วไป แต่ทำไม ไม่เห็นมีที่สำหรับเกย์เลยล่ะ? จะมีใครนะ เข้าใจคำว่า “พื้นที่” ที่ควรมีหลากหลายสำหรับนักท่องเที่ยวหลายๆ กลุ่มมั๊ย? เอ...หรือนักท่องเที่ยวเกย์ไปแน่นกันอยู่ที่ภูเก็ตกันหมด? เราเองน่ะแหละ มาผิดที่?

ผมกับเพื่อนตกลงกันว่า ในคืนวันรุ่งขึ้น เราจะไป “สำรวจ” อย่างจริงจัง ผมจัดการเข้าเน็ต และถามคนแถวนั้น ส่วนใหญ่แล้ว เขาจะบอกแต่เพียงว่า ไม่มีหรอกผับเกย์หรือบาร์เกย์โดยเฉพาะ มีแต่ผับและบาร์ทั่วๆ ไป และก็คงมีเกย์ไปกันมั้ง เราคงต้องพยายามค้นหาดูเอง

เร่ร่อนไปสองสามที่ในคืนวันรุ่งขึ้น จนในที่สุดก็คิดว่า คงเป็นจริงอย่างว่า ไม่มีผับหรือบาร์เกย์หรอก มีแต่ “พันธุ์ผสม” ถ้าเป็นแบบนี้ คงดูไม่ออกหรอกครับว่า ใครเกย์ ใครไม่เกย์ การที่ต้องเดาเอาว่า ใครเป็นใคร มันไม่สนุกหรอกอย่างเวลามาเที่ยวอย่างนี้ เพราะมันใช้เวลา ท้าทายอารมณ์ กับต้องอดทน ถ้าทักผิด คงหน้าแตก

เพื่อนผมยังคงอดทนนั่งรอตรงนั้นในผับแห่งหนึ่งที่ดูฮิปดี หวังใจว่า อาจจะได้ปิ๊งใครในที่สุด มันก็คงเหมือนเป็นเกมสนุกของคนเที่ยวกลางคืนที่ชอบเรื่องฟลุ้กๆ น่ะครับ

หลังจากมองไปรอบๆ เก็บบรรยากาศไปเรื่อยๆ เราเห็นหนุ่มต่างชาติสองคน อายุไม่น่าเกิน 28 ดูจากภายนอกแบบ เดาๆ แล้ว ก็ไม่น่าจะใช่ แต่ดูจากท่าเต้น มันมีแนวโน้มว่าใช่ ผมอดสงสัยไม่ได้ ก็เขายักย้าย เข้าจังหวะ ด้วยลีลาสร้างสรรค์ ปลดปล่อยอารมณ์ขนาดนั้น ผู้ชายทั่วๆ ไป คงไม่เต้นได้มันส์สะใจอย่างงั้นหรอก แถมยังเต้นหันหน้าชนกันอีกต่างหาก ไม่เห็นเข้าหาสาวคนไหน แต่ผมง่วงนอนเกินไปที่จะรอคำตอบ เลยปล่อยให้เพื่อนผม “หาเหยื่อ” ของเขาต่อไป มันเล่าให้ฟังในวันรุ่งขึ้นว่า ได้คุยกับหนึ่งหนุ่มในสองคนนั้นด้วยล่ะ

“มาจากเยอรมันล่ะแก ไอ้ตัวเล็กว่าบอกว่า ไม่ได้เป็นเกย์ เพื่อนมันที่เต้นมันส์ๆ ที่แกชอบน่ะ ก็บอกว่า ไม่ได้เป็นเหมือนกัน มันบอกว่า กำลังมองหาสาวอยู่ แต่ไม่อยากเสียเงิน จะทำไงดี สาวไทยในนี้ก็มีตั้งหลายคน แล้วจะรู้ได้ไงว่า คนไหนเป็นคนไหน คนไหนใจตรงกัน” เพื่อนผมเล่าอย่างอารมณ์ดี

มันคงรู้สึกดีขึ้นน่ะครับ ถึงแม้ในคืนนั้น จะไม่ได้เจอหนุ่มคนไหนที่ถูกใจ แต่ก็ได้เพื่อนคุยคนหนึ่งที่ถูกคอ และที่สำคัญ มันกับหนุ่มเยอรมันคนนั้น ตกที่นั่งเดียวกันคือ ไม่รู้ว่า คนไหน เป็นคนไหนในพื้นที่พันธุ์ผสมแบบนั้น

หมายเหตุ ภาพประกอบไม่ได้ถ่ายจากสถานที่จริง เป็นเพียงภาพประกอบ

-end-

All rights reserved.

16 comments:

Anonymous said...

หวัดดีครับพี่วิทย์

แวะมาให้กำลังใจวันสงกรานต์คับ
ส่วนผมเองไม่ได้ไปไหน อยู่ กทม ตลอดเลย ไปเที่ยวข้าวสารมา คนบานตะเกียงเลย เยอะแยะมากมายมหาศาล แล้วก็เลยไปสีลมครับ สนุกมาก มีแต่คน (เกย์) น่ารักเยอะแยะเลย ได้เอาแป้งป้ายแก้มคนนั้นที คนนี้ที มีแต่คนน่ารักๆ ชอบจางเลยวันสงกรานต์เนี่ย
อยากให้มีสัก 2 เดือนให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย อยากป้ายแก้มหนุ่มๆ อีกจังเลย

ชอบ ชอบ

"คนของความสะใจ" คับป๋ม

Anonymous said...

สงกรานต์นี้ไปแดนซ์ 4คืนรวดดด....
ทั้ง สีลม หลังสวน รัชดา แต่ทุกคืนก็ไปจบที่ อตก. เพราะ เล่นน้ำกันมันส์+บ้าดี และส่วนใหญ่อายุไม่น่าเกิน25

เห็นด้วยอย่างยิ่ง ในเรื่อง"พื้นที่"ของเรา เพราะในบางกาละเทศะเราต้องสวมบทบาท(role,ทางพฤติกรรมศาสตร์)กลางๆ เช่น คนทำงาน ลูก หรือ ผู้ให้บริการ แต่เมื่อเราต้องการสวมบทบาทเกย์ ก็ควรมีที่ๆเปิดเพลงเกย์ เครื่องดื่มเกย์ ชาวเกย์ และเต้นกันแบบเก๋เกย์

พาลให้นึกถึงพวกเรารุ่นแม่ๆที่ต้องกระมิดกระเมี้ยนอึดอัดอยู่แต่ในบ้าน หรือไม่ก็ออกไปอนุสาวรีย์หมูแบบกู่ไม่กลับไปเลย แต่ในอีกแง่หนึ่งเมื่อมองไปในอนาคต ผับ-บาร์ของเกย์ในกรุงเทพก็อาจมีการใช้สารกระตุ้น-สิ่งเสพติดกันเลื่อนกลาดและก็มากที่มีsoft sexกันบนฟลอร์นั่นเลย ซึ่งกำลังเกิดขึ้นหลายเมืองในโลก เช่นNY

โดยส่วนตัวผมชอบที่นี่ ตรงนี้ และวันนี้ที่สุด

Anonymous said...

รีบนหัวดิฉันนี่น่ะคะ
ดิฉันมีความสนใจประโยคท่อนนี้ค่ะ

--- แต่เมื่อเราต้องการสวมบทบาทเกย์ ก็ควรมีที่ๆเปิดเพลงเกย์ เครื่องดื่มเกย์ ชาวเกย์ และเต้นกันแบบเก๋เกย์
---

เครื่องดื่มเกย์ มันเป็นอย่างไรคะ? เดี๋ยวนี้เครื่องดื่มก็ต้องแบ่งแยกเป็นเครื่องดื่มเกย์แล้วหรือคะ

คือ เคยได้ยินแต่เครื่องดื่มสำหรับพระสงฆ์ที่ดื่มได้ จำพวกน้ำปานะ (เขียนยังไงวะเนี่ย)

เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพสำหรับเด็ก
เครื่องดื่มชูกำลังสำหรับพวกนกเขาไม่ขัน

แล้วเครื่องดื่มเกย์มันเป็นยังไง

โทษนะคะ ไม่ได้ตั้งใจจะหาเรื่อง แค่สงสัยคะ?
คือที่สงสัยค่ะว่า อะไรที่ดื่มแล้วเป็นเกย์แน่ๆ หรือ อะไรที่เกย์แน่ๆ ดื่ม (งงประโยคคำถามตัวเองจัง)

อ้อ เกือบลืมสวัสดีวันสงกรานต์... (acting code : ไหว้ถอนสายบัวแบบนางงามซิ่นใหม - ผู้กำกับสั่งมาค่ะ)

อีกหนึ่ง อ้อ พูดถึงเรื่อง "พื้นที่" สาวอิสานรอรักมีเรื่องจะเม้าท์ค่ะ

สาวอิสานรอรักไปอบรมสากกะเบืออะไรสักเรื่องหนึ่งนี่ละค่ะที่ขอนแก่น สาวอิสานรอรักก็เลยแอบบถามเพื่อนสนิทซึ่งทำงานอยู่ที่ขอนแก่นนะคะ ว่ามี "พื้นที่" สำหรับ มนุษย์พันธุ์พิเศษไหม เพื่อนบอก เมื่อก่อนไม่มี ต้องไปมองกันเอาเองตาม เธค ตามผับ ตามห้องน้ำ ห้องส้วม (สังเวชมากค่ะ) เดี๋ยวนี้ดีขึ้นหน่อยประชาการชาวเกย์มีมากขึ้น เธคใต้โรงแรมแห่งหนึ่งในขอนแก่น ได้เกิดการแบ่งแยกกันเอง

ว่าโซนนี้ น้องชะนี โซนนี้ผู้ชาย โซนนี้พันธุ์พิเศษ ว่ากันว่า ในเมื่อไม่มีสถานที่ที่ขัดเจน หรือความต้องการของตลาดยังไม่มากเหมือนกรุงเทพ ที่จะต้องสร้างสถานที่ "เฉพาะกาล" ขึ้นมารองรับตลาด

ก็เรยยย พากันแบ่งกันเอง (เท่าที่ทราบนนะ ผู้จัดการก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางพันธ์พิเศษด้วยค่ะ ก็เลยทำการโซนนิ่งให้เสียเลย)

แต่ที่ฟังแล้วประหลาดใจ สนเท่ห์ใจ พิศวงใจ และสังเวชใจมากขึ้น คือ

สมัยก่อน(และปัจจุบันนี้)เขาจะไป ดักซุ่มกันอยู่ที่ บึงน้ำแห่งหนึ่งค่ะ เป็นบ่อบำบัดน้ำเสียแห่งหนึ่ง ด้วยความที่อยากรู้และเก็บข้อมูลน่ะคะ เลยให้เพื่อนพาไป-อ๊อฟเสิฟ- (observe)

ผลปรากฏว่า มันน่ากลัวมากค่ะ คือมันจะมืดมาก มีมนุษย์พันธุ์พิเศษเดินไปเดินมา เคลื่อนตัวไปในความมืด เหมือน วิญญาณเร่ร่อน ค่ะ พอคุยอะไรกันได้แล้วก็ชวนกันไปที่ "ไหน ๆ ที่เขาชอบไป"

เพื่อนยังบอกว่า นี่ก็เป็นอีก "พื้นที่" หนึ่ง ซึ่งไม่ควรไป เพราะข่าวว่ามีการฆาตกรรมลูกชายคนดังในเมืองขอนแก่นค่ะ

คิดแล้วก็สงสาร people like us ยุคแรกๆ นะคะ ที่โลกยังไม่เปิด ด้วยความที่ไม่มีที่ทาง ที่ชัดเจนและไม่มีความเป็นตัวตนที่แน่นอน จึงต้องไปหา "ส่อง" "ส่าย" หากัน ราวกับเป็นวิญญาณเร่รอน

ค่ะ ก็แค่แสดงความคิดเห็นและ แชร์ประสบการณ์ร่วมกันน่ะค่ะ ว่าโลกใบนี้ก็มีผู้คนที่เหมือนเรา และแตกต่างจากเรามากมาย หลายแบบ

- ไม่รู้ว่าคนไหนเป็นแบบไหน ไม่รู้คนไหนเป็นคนไหน-

สาวอิสานรอรัก

Anonymous said...

ทำไมพื้นที่สำหรับเกย์ถึงมีแต่ที่เที่ยวกลางคืนล่ะครับ ในส่วนอื่นของสังคมไม่มีเหรอครับ
หรือว่าเกย์คิดจะทำตัวแปลกแยก ต้องไปหาพื้นที่ของตัวเองอยู่ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว ถ้าพยายามและอดทนอีกนิด ก็น่าจะอยู่ร่วมกับคนเพศอื่นๆ ในสังคมได้อย่างสงบสุข
ผมก็เกย์ครับ แค่ถามเฉยๆ

Anonymous said...

ตอบคุณสาวอิสานรอรัก
ผมยังไม่เจอเครื่องดื่ม"เฉพาะเกย์"จริงๆ แต่มักเป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่ เช่น มักสั่งชาเอิร์ลเกรย หรือ ดาจิลิง มาดื่มในซอย2หรือดื่มเฉพาะน้ำเปล่าเพราะรักสุขภาพ สำหรับผมนี่ก็เกย์แล้วนะ แต่ก็ยังรอให้มีคนคิดค้นเครื่องดื่มที่เป็นsignatureของร้านชาวเรา เช่น Cinderella alnite ที่ดื่มแล้วรองเท้าแก้วกับชุดราตรีไหมมัดหมี่สลายไปทันทีไม่ต้องรอเที่ยงคืน เหลือไว้แต่ทูพีซลายพราง ที่ทำให้เต้นได้ถึงเช้า...จินตนาการน่ะ

ตอบผู้ไม่ประสงค์ออกนาม
ที่ๆเกย์อยู่ร่วมกับเพศอื่นๆในสังคมได้อย่างสงบสุขน่ะมีอยู่แล้วคับ เช่น Paragon, Zen, Centralชิดลม ,แคลิฟอเนียว๊าย.., Greyhound Cafe, Anna Cafe, Playground, J avenue, Agaligo ฯลฯและก็ไม่ใช่ที่เที่ยวกลางคืนอย่างเดียว แต่ที่เราต้องการและสนใจ"entertainment"ที่กว้างขวาง+หลากหลายกว่าชายหญิง เพราะเขาเหล่านั้นมีหน้าที่อื่นเช่นสร้างและเลี้ยงดูครอบครัวให้มั่นคง โดยเฉพาะลูก ส่วนเรามีทรัพยากรเหลือมากกว่า ทั้งเงิน เวลา เพราะไม่มีลูกหรือครอบครัว เปรียบได้กับลิงที่ใช้เวลาบางส่วนหาอาหาร ที่เหลือก็เล่น ส่วนช้างที่ต้องกินอาหารมากก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการหาอาหาร แต่ลิงกับช้างก็มารวมกันที่แม่น้ำ ช้างก็แช่น้ำไป ลิงก็โดดน้ำไป แต่ดื่มน้ำจากแม่น้ำเดียวกัน

ไม่ต้องอดทน ไม่ต้องพยายาม ผมว่างั้นนะ

Anonymous said...

แวะเข้ามาอีกรอบค่ะ
เหงาค่ะ ไม่มีใครคุยด้วย

รีบนหัวนี้ ก็ตั้งประเด็นดีนะคะ
มานั่ง คิดๆ ดู สถานที่ เกย์ กลางวัน มันควรจะเป็นแบบไหนดี?

ติ๊กต่อกๆ ๆๆ ๆๆ คิดไม่ออกค่ะ

จะเป็น ธรรมสถานเกย์ ก็ดูแปลกแยกไป
ห้างสรรพสินค้าเกย์ ก็ประหลาดไป
โรงเรียนเกย์ ก็ไม่น่าจะผ่าน ร่างรัฐธรรมนูญ
สระว่ายน้ำเกย์ (อันนี้เคยได้ยิน)
ร้านอาหารเกย์ อันนี้ก็ดูเจาะจงเกินไป


อ่อ นึกออกแล้ว
สถานที่ออกกำลังกายเกย์ ฟังดูมีสุขภาพดี(อิอิ คนกรุงเทพรู้ดี)

ความจริงสาวอิสานว่า ไม่ควรแบ่งแยกให้มันชัดเจนหรอกค่ะ แค่อยู่ร่วมกันให้ได้ก็น่าจะดีแล้ว
คิดง่ายๆเอาว่า
คนที่เขาชอบกินหอยนางรมก็มี
คนที่เขาชอบกินหอยแมลงภู่ก็มี
คนที่เขาชอบกินทั้งสองหอยข้างบนนั่นก็มี
คนที่เกลียดไม่กินหอยก็มี

ดูกันเอาเองแล้วกัน ว่าใครเป็นใคร
(ความจริงควรแก้กฏหมายด้วยค่ะ กฏหมายคุ้มครองผู้หญิง ผุ้ชาย แต่กฏหมายไม่ได้คุ้มครองความเป็นหญิงหรือความเป็นชาย ซึ่งมันวัดกันยากนะคะ ว่าความเป็นหญิงความเป็นชายเนี่ย )

ไปดีกว่า ปัญหาโลกแตก...
คุณวิทยาคะ คุณทำให้ อิฉั้น เวียนหัวค่ะ
// acting code - ผู้กำกับ สั่งให้ สาวอิสานรอรัก ทำหน้าเหลือง อิดโรย เอามือกุมขมับ คล้ายๆ กับว่า กำลังขบคิดอย่างหนั้ก)

Anonymous said...

เรียนคุณ ซีอุย (cyui มันอ่านว่าอย่างนี้ใช่ไหมคะ)

ยังไม่วาย หายแคลงพระทัยค่ะ

เอิร์ลเกรย์ รู้จักค่ะ
แต่ดาจิลิง มันคือ อิหนังค่ะ
มันส่วนผสมว่าอย่างไรค่ะ
สาวอิสานว่า สาวอิสานก็เชียวชาญทางด้านเครื่องดื่มนะคะ แต่ไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลยค่ะ

ไปสถานที่เกย์ สาวอิสานดื่มอะไรก็ได้ค่ะ
คอทองแดงค่ะ

// ผู้กำกับ ยื่นแก้วเหล้ามาให้ แล้วสั่งให้ทำหน้าแดงกร่ำ แล้วตะโกนออกมาว่า "ตำจอก เด้อค่ะเด้อ"

Anonymous said...

เรียนคุณสาวอิสานรอรัก

ดาจิลิง ก็เป็นชาชนิดหนึ่งคับ จำภาษาอังกฤษไม่ได้ ส่วนผสมนี่ไม่ต้องพูดถึงเรยยยย....
ส่วนชื่อซีอุยนั้น ผมพยายามให้อ่านไม่ออก แต่คุณสาวอิสานมีตาพิเศษ อ่านออกอากาศจนผมละอายไปเลย
ว่าแต่หายเหงารึยังคับ ตำจอกเด้อ...

Anonymous said...

อ้าว ๆ ไม่ได้แวะมาเสนอหน้าแผล้บเดียว บอร์ดก็ทั้ง คึก และ คัก ไปได้ขนาดนี้
ก็ไม่รู้ว่า พี่วิทย์ ของผมจะนั่งยิ้มกริ่มหรือว่าหน้ามุ่ยเพราะสับสนกับคอมเม้นท์
ที่มีหลากอารมณ์ หลายแง่มุม จิง ๆ ... แหะ ๆ ขออภัยที่พาดพิงคุณเจ้าของเม้นท์
ที่เคารพน้ะคับ ---

ผมเองก็เคยรู้สึกเหมือนกับหลาย ๆ คนเวลาที่ไม่รู้จริง ๆ ว่าที่สำหรับ "ชาวเรา"
อยู่ตรงไหน อันที่จริงเกย์ก็ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนอื่น ๆ ในสังคมอย่างสงบสุขมานานละ
(พูดประมาณนักวิชาการ) เพียงแต่ว่าใครจะมี "เครื่องรับ" หรือเขาเรียก "Gay - Dar"
ที่มีประสิทธิภาพมากพอที่รับ "สัญญาณ" ที่มีคนส่งออกมา (ยังกะรัศมีเฮ้ากวง)

ว่าไปมันก็คงจะดี ถ้าไปอยู่ในที่ที่มั่นใจได้ว่าคนอื่นที่อยู่ด้วยจะเป็นคนชนิดเดียวกัน
เพราะยอมรับว่ามีหลายครั้งที่ผม จับสัญญาณได้แต่ก็ยัง "ไม่อยาก" จะปักใจเชื่อ
ว่าเขาจะเป็นคนชนิดเดียวกันกับผมจริง ๆ เลยกลัวว่าจะทักผิด (สถานะภาพ)
สรุปว่า ถ้ามีสถานที่เฉพาะกลุ่มของชาวเรา ก็ดูว่าการทำ "อะไรๆ" มันจะง่ายกว่าคับ
(อิอิ อันนี้เสนอให้มองในมุมกว้าง เช่น ทำความรู้จัก หรือ คุยกัน น้ะคับ)

ก่อนอำลา ขอเสนอแนวคิดเห่ย ๆ อันหนึ่งว่ามันจะดีมั้ยคับถ้าเราจะมีสัญลักษณ์
อะไรสักอย่างที่ชัดเจนพอที่จะทำให้คนที่เห็นรู้ว่าเราเป็นเกย์ได้อย่างภาคภูมิ
ประมาณ สายรัดข้อมือ (wrist band) สีรุ้ง หรือโลโก้ เก๋ ๆ สักอันหนึ่ง
ซึ่งที่จริงก็มีสัญลักษณ์บางอย่างสำหรับพวกเราอยู่แล้วที่เป็นของต่างประเทศเขา
แต่ปัญหามันก็คงจะอยู่ที่ว่าคนที่ใส่หรือใช้มัน จะยอมรับความเป็นตัวเอง
ได้มากน้อยขนาดไหน แล้วเราจะภูมิใจที่จะใส่มันหรือไม่

ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ข้างบนที่มาช่วยให้สร้างสีสันและความรู้ดีดี
ด้วยความห่วงใยจากเกย์นิสัย(และปาก)เสียคับ ^_^

Anonymous said...

ภาษากายน่าจะได้ผลที่สุด เหมือนชาย-หญิงเขาใช้กัน เพราะเราไม่ได้"เตรียมพร้อม"ความเป็นเกย์ไว้ตลอดเวลา และบุคลิกท่าทางยังเป็นตัวตนที่มีรายละเอียดด้วย

หาเกย์ให้เจอน่ะไม่ยาก อย่าห่วงว่าจะไม่เจอ แต่หาเกย์มาอยู่ด้วยกันให้ได้น่ะยากกว่าแยะคับ

Vitaya S. said...

สวัสดีครับ เขียนกันฮาๆ มันส์ๆ ดีครับ ชอบ
อ่านเพลินเลยล่ะครับ

มีข่าวหนึ่งอาทิตย์ที่แล้ว จาก Washington DC
อยากมาเล่าให้ฟัง (เล่าไปแล้วทางวิด-ยุ)
กลุ่มเกย์ เลสเบี้ยนที่นั่น เล่นนัดกันทางเน็ต ไปเจอกัน
ตามร้านของชายหญิงทั่วไป นัยว่า มาแสดงพลัง
เงียบๆ แต่มีหนหนึ่งโผล่กันไปเกือบสองร้อยคน
(คงนับคร่าวๆ มั้ง) เหตุที่ทำอย่างนี้ ก็เพื่อแสดงตัวตน
ส่วนหนึ่ง อีกส่วนก็คือ ที่ดีซี มีบาร์ และคลับเกย์
และเลสเบี้ยนไม่กี่แห่ง และเริ่มเบื่อๆ กัน แต่ข่าว
ไม่ได้บอกว่า ไปกันแล้วแสดงตัวกันแต่ไหน...
อยากรู้จัง

เรื่องเครื่องดื่มนี่ไม่ถนัดเลยล่ะครับ แต่ชอบดูคนเสิร์ฟ
ไม่รู้เป็นไง...อิ อิ

วิทยา

Anonymous said...

พี่ไปดูที่ไหนบ้างล่ะคับ

ครัวการบินไทยใกล้ตึกเจ๊เล้งก็ดีนะคับ พนักงานมีมารยาทและได้รับการสอนมาอย่างดีคับ ที่ดีที่สุดคือรูปร่าง+หน้าตา อาหารเลยจืดไปเรยยย....

Anonymous said...

อ่านเพลินไปเรย เช่นกาน ...
ดีครับ รู้สึกว่ามคนคิดคล้ายๆกันหลงเหลืออยู่บ้าง

บางทีปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรื่องสัญลักษณ์/สถานที่ ฯลฯ หรอก ผมว่านะ
บางทีภาพ/หรือ ฯลฯ ที่เรากะๆไว้มันสมบูรณแบบไป แล้วก็อยากให้มาถึงไวๆ แต่มันก็มาไม่ถึงซะทีน่ะครับ
เรียกว่า"ความคาดหวัง"เป็นพิษ

ชอบที่คุณ cyui เขียน

" ภาษากายน่าจะได้ผลที่สุด เพราะเราไม่ได้"เตรียมพร้อม"ความเป็นเกย์ไว้ตลอดเวลา
และบุคลิกท่าทาง ยังเป็นตัวตนที่มีรายละเอียดด้วย"

: ) เท่มากๆครับ ขอบอก ชอบความคิดคุณจังเลย

อันนี้เป็น fact จริงๆ
" หาเกย์ให้เจอน่ะไม่ยาก อย่าห่วงว่าจะไม่เจอ แต่หาเกย์มาอยู่ด้วยกันให้ได้น่ะยากกว่าแยะคับ "

ส่วนคุณสาวอิสาน
..หน้าเหลือง อิดโรย เอามือกุมขมับ นอกจากจะหมายถึงอากการคิดไม่ออก ยังคล้ายๆ กับอาการท้องผูกเช่นกันนะน้อง 5 5 5

big

Anonymous said...

อุ๊ยตาย
มีผู้ชายมาชม
เขินง่ะ

Anonymous said...

ขออนุญาติร่วมวงไพบูลย์ด้วยคนนะครับ เรื่องเครื่องดื่มนั่นน่ะครับ Darjeeling เป็นชื่อชาที่ปลูกในชื่อเมืองเดียวกัน ซึ่งอยู่ในอินเดีย แคว้นอัสสัม(แหม ชื่อไฮโซจัง)ใกล้ๆพม่านะครับ
ส่วนเรื่องรสชาติก็งั้นๆนะครับ สงสัยเพราะเป็นคอชาจีนมั้งครับ แต่ว่าชานี้ก็ไปอิ๊บเมล็ดชาจากเมืองจีนมาปลูกเหมือนกันนะครับ

ชอบเครื่องดื่มทุกชนิดเหมือนกันครับ
เด็กน้อย

thammarit said...

ขอประทานอภัยทกท่านที่เข้ามาขัดจังหวะการสนทนา
ผมมาตามหาชื่อ ผับ(หรือบาร์)ก็ไม่ทราบได้เพราะเมา เหตุเกิดก่อนวันสงกรานต์ครับ ที่อ่าวนาง จ.กระบี่ ผู้เป็นผู้ชายแท้ทั้งแท่งครับ ไปเที่ยวกับครอบครัว อา,น้องชาย,ลูกพี่ลูกน้อง ตอนกลางคืนผมออกมาเที่ยวบาร์เบียร์(ลักษณะคล้ายซอยนานา)โดยมีผู้หญิงคนหนึ่งอาสาพาเที่ยว(เค้าพักอยู่ห้องติดกันและเพิ่งรู้จักกัน)ทั้งซอยเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานทั้งไทยทั้งเทศ นั่งดื่มกันไปแค่ชั่วโมงเดียวเธอก็บอกว่าขอตัวกลับก่อนเธอเมา แล้วถามว่าผมอยู่คนเดียวได้นะ เดี๋ยวเค้าจากฝากฝั่งไว้กับคนรู้กแถวนั้นช่วยดูแลให้ ตอนนั้นผมกลับไม่ได้แล้วเพราะเครื่องผมติดแล้ว ต้องไปข้างหน้าต่อไปสถานเดียว ถอยไม่ได้ไม่งั้นเครื่องพัง ก็คุยกับคนอื่นไปทั้ว ดื่มอย่างสนุกสนาน ทั้งหญิงและชาย ทั้งไทยและเทศ ทุกคนเข้ามาแวะทักทายผมสาดน้ำ พูดคุยคำสองคำ ก็ผ่านไปผ่านมาทุกคน แต่สายตาผมปักไปที่สาวน้อยคนหนึ่งลักษณะขี้งอน และงอแงเอาแต่ใจ แต่ไม่มีอะไรผมแค่มอง เที่ยงคืนเด็กผู้หญิงคนนั้นมานั่งอยู่ข้างๆผม ใจผมลอยอยู่กับภาพคนเมาทั้งซอยเล่นน้ำกับ เลยไม่รู้ว่าเธอมานั่งตั้งแต่เมื่อไหร่ เราแนะนำตัวและคุยกัน ผมเลี้ยงเหล้าเธอ โดยไม่ได้คิดอะไร เที่ยงคืนครึ่งเธอชวนผมไปเที่ยวต่อ ที่ๆเราไปกันเธอบอกว่าปิดตี 3 อยู่ริมหาดอ่าวนาง ผมจำชื่อสถานที่นั้นไม่ได้ (ก็แค่อยากรู้...แค่นั้น เลยพาตัวเองมานั้น search หลังจากกลับมากรุงเทพ)เราจูบกันตั้งแต่ขึ้นรถ(มอร์ไซร์+sidecar)จนไปถึงร้านจูบกันเหมือนร้านมีเราแค่สองคน ทั้งๆที่มีฝรั่ง,คนไทย เต้นเพลงอะไรก็ไม่รู้(เมา)ทั้งร้านเล่นน้ำ ดื่ม แต่เราก็ยังคงจูบแบบไม่สนใจใคร แล้วก็พากับเดินเข้าไปในร้าน ลงบันไดไปที่หาดทราย และก็นอนลงจูบกัน ลงไปเล่นน้ำ มองไปรอบๆก็มีคนลงมาเล่นน้ำและดื่มกันบนหาดเหมือนเรา แล้วเธอก็พาผมขึ้นบันไดไปที่ร้านข้างๆซึ่งเป็นร้านที่เธอรู้จัก ดื่มต่อ เล่นโต๊ะพูลกัน แล้วเธอก็บอกว่าไม่ไหวแล้วเมามาก(เธอเมาตั้งแต่ที่ผมเห็นเธอครั้งแรกแล้วแหละ)เธอบอกว่ากลับกันเถอะ รองเท้าผมหาย รองเท้าเธอขาด เราสองคนเดินเท้าเปล่าตัวเปียก เอียงซ้ายทีขวาที ไปเปิดโรงแรมนอน ตี5ครึ่งน้องชายผมโทรมาตามว่ารีบมา เดี๋ยวอาตื่นมาแล้วไม่เจอจะเป็นเรื่อง ผมยังไม่ได้นอนเลย จูบลาบนหน้าผากเธอ ใส่เสื้อผ้า วิ่งเท้าเปล่ากลับที่พัก แสงแดดตอนเช้าไม่สดชื่นเพราะยังเมาอยู่เลย ย่องเข้าห้อง(ต้องผ่านห้องอาก่อน)อาบน้ำเดินทางต่อ 9โมงเช้าถึงเขื่อนรัชประภา วิ่งเข้าห้องน้ำอุทยานอ้วกลั่นห้องน้ำ หยั่งกับมีนักร้องโอเปร่ามาขับกล่อมยามเช้า.............
ผมไม่มีเบอร์เธอ เธอไม่มีเบอร์ผม รู้แต่เพียงว่าผมเจอเธอที่ไหน แต่ร้านที่เราไปกันไม่รู้ว่าชื่อร้านอะไร ผมแค่ตามหาชื่อร้านก็แค่นั้น แค่เติมคืนความฝันบนอ่าวนางของผมให้มันเต็ม ไม่ตกหล่น..............
เราคุยกันหลายเรื่อง เธอเกลียดผู้ชาย ผมถามว่าทำไมต้องเป็นผม เธอบอกว่า"ไม่รู้เหมือนกัน"เสียงเธอยังก้องอยู่ในหูผมอยู่เลย ท่าทางเด็กแก่นๆ ขี้งอนๆ ยังวิ่งเล่นอยู่ในโสตประสาทผม..........ก็แค่อยากได้ชื่อร้าน ก็แค่นั้น
ขอบคุณครับที่อ่านมัน
ขอโทษครับที่รบกวน