Sunday, May 21, 2006
คำสารภาพของหนุ่มอยาก “Fun”
เลิกแอบเสียที วิทยาแสงอรุณ Metro Life May 20-21, 2006
(เรื่องสั้นจากประสบการณ์จริงของท่านผู้อ่าน)
ตอนที่ผมเจอเขาครั้งแรก ผมชอบเขาเลยทันที เขาเป็นหนุ่มผิวขาว หุ่นไม่หนาแต่ก็ไม่ผอม ใบหน้าใสปิ๊ง และคงเป็นเพราะแว่นแผ่นบางๆ ที่เขาใส่ด้วยมั้งที่ทำเอาผมต้องจ้องมองเขาไม่วางตาหลังจากเพื่อนแนะนำเรา
ดูเขาก็คงจะสนใจผมอยู่ไม่น้อย รู้ได้ยังไงเหรอครับ? เขาจะคอยพูดจาแซวผมตลอด เหมือนหาเรื่องเรียกร้องความสนใจ
ผมแกล้งขอเบอร์มือถือเขา อ้างว่ามีเรื่องงานจะปรึกษา พวกเพื่อนๆ ในวงเหล้าไม่ได้ติดใจอะไรที่ผู้ชายสองคนแลกเบอร์มือถือกันเพื่อพูดคุยเรื่องงาน ในจังหวะที่คนนั่งใกล้เขาลุกออกไป ผมก็ย้ายตัวเองเข้ามาแทนที่ ผมคิดว่า วินคงรู้สึกว่าหัวเข่าของเราชนกัน “โดยบังเอิญ” กระมัง
ถึงผมจะใจร้อน ผมก็ทิ้งเวลาสองสามวันจึงค่อยโทร. เดี๋ยวเสียฟอร์ม แต่แค่ได้ยินเสียงนุ่มๆ ของเขาเท่านั้นแหละทำเอาผมงุ่นง่านขึ้นมาเลย หลังจากโทร. ปรึกษางานไปสองสามครั้งติดๆ กันตลอดสัปดาห์นั้น ในตอนเย็นวันศุกร์ผมก็รู้ว่า เวลา “ปรึกษาเรื่องงาน” ใกล้จะหมดลง ผมกลั้นใจ แล้วบอกเขาไปว่า
“วินอยากแวะมาบ้านผมไหม เย็นนี้”
ผมเปิดเบียร์เย็นเจี๊ยบให้เขาแล้วส่งให้ นิ้วมือของเราสัมผัสกันเล็กน้อย อีกสักพัก เราก็นั่งจิบเบียร์และนั่งดูทีวีกัน มันยังหัวค่ำอยู่เลย ผมว่าน่าจะดึกกว่านี้อีกหน่อย ผมอยากให้อะไรเป็นไปอย่างช้าๆ
วินลุกขึ้นยืน แล้วบรรจงบีบนวดหัวไหล่ผมเบาๆ แต่ผมกลับรู้สึกถึงความตึงเครียดเบื้องล่าง ผมหลับตาพริ้ม ศรีษะผมชนแผ่นท้องแบนเรียบของเขา อีกสักพัก เขาขอตัวไปอาบน้ำ ในฐานะเจ้าของบ้านที่ดี ไม่กี่นาทีต่อมา ผมก็มีสิ่งของครบครันวางพร้อมใช้อยู่ : ถุงยาง (สองสามชิ้น เจลหล่อลื่น และกระดาษทิชชู่แบบผืนใหญ่ที่ใช้ในครัว)
ผมผลักเขาเบาๆ ลงบนเตียง เริ่มซุกไซร้ลงบนแผ่นอกเปลือยเปล่าของเขา ผมขบหัวนมเขาค่อยๆ จูบและเลียมันอย่างทนุถนอม เขาครางเบาๆ แล้วผมก็เริ่มรู้สึกถึงความแข็งแกร่งที่ก่อตัวขึ้นเบื้องล่างภายใต้กางเกงขาสั้นของเขา
ขณะที่ผมค่อยๆ เคลื่อนใบหน้าขึ้นไปตามลำคอ เพื่อดอมดมซอกคอเขา เขากลับยกตัวขึ้นทันที พลางจับหัวไหล่ผมแน่น วินดันผมออกไป ตอนนี้ไฟจากเพดานส่องมาตรงหน้าผมพอดี เขาเริ่มซุกไซร้ซอกคอผมแทน ริมฝีปากและลิ้นของเขาทำให้ผมรู้สึกถึงความชำนาญของเขา และรู้สึกถึงแทบทุกสัดส่วนในร่างกาย ทั้งมือที่ลูบไล้ และเบื้องล่างของเขาและผมที่เสียดสีกันไปมา
สักพักใหญ่ผ่านไป เหงื่อผมเริ่มซึม ดูเหมือนวินจะให้ความสนใจซอกคอและแผ่นอกของผมจนลืมบางสิ่งเบื้องล่างที่กำลังรอคอยความชุ่มชื้นของลิ้นและริมฝีปากของเขา ทั้งๆ ที่ตอนนี้เราทั้งสองไม่มีอาภรณ์ชิ้นใดกั้นไว้แล้ว ผมลองประมาณด้วยสายตา ความเป็นชายของผมมีขนาดยาวกว่าของวินอย่างเห็นได้ชัด
ผมจับหัวไหล่เขา และพยายามพลิกตัวเขากลับไปสู่ตำแหน่งเดิม
ต้องมีอะไรผิดปกติแน่
วินออกแรงขืน เหมือนเขาอยากจะอยู่บนตัวผมต่อไปอีก และอย่างไม่ลดละ ผมพยายามเปลี่ยนตำแหน่งของเราสลับกัน ผมชักจะเบื่อที่ต้องเป็น “ฝ่ายถูกกระทำ” มันนานเกินไปแล้ว ผมบอกตัวเอง และถึงจังหวะที่ผมต้องทำหน้าที่ของผมเสียที
เขายอมถอนตัวจากผมในที่สุด และแล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อนก็เกิดขึ้น
“ขอผมข้างหลังได้ไหมครับ” วินพูดเสียงแทบกระซิบ แต่หนักแน่น เขายิ้มให้ผมน้อยๆ ผมนิ่งไปครู่หนึ่งเหมือนไม่เชื่อหูตัวเอง ผมสำรวจเขาอีกครั้งเหมือนไม่แน่ใจสายตา
ผมเลือกผิดคนหรือนี่?
ผมยิ้มตอบให้เขา ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ด้วยน้ำเสียงสุภาพที่สุด “เอ่อ คือผมไม่เคยให้ใครรุก” แววผิดหวังฉายขึ้นบนใบหน้าใสๆ ของวิน แต่สายตาของเขายังคงเว้าวอนไม่เลิกรา เขายื่นคำขอของเขาอีกครั้ง “นะครับ ผมจะทำเบาๆ ผมสัญญา”
มาบัดนี้ ผมเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่ามัน “เจ็บ” และทรมานแค่ไหน ผมเกร็งไปทั้งร่างขณะที่วินพยายามจะเอา “ท่อนเหล็ก” ของเขาใส่เข้าไปข้างในผม เขาทำตามสัญญา มันเคลื่อนที่อย่างช้าๆ เสียงหายใจเขาเริ่มหอบเหมือนสัตว์ป่า พอมันกำลังจะถลำผ่านเขม็งเกรียวของหูรูดไป ผมก็รู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้านับล้านจุดประกายจากช่องเล็กๆ นั้นแล้วแผ่ซ่านขึ้นมาทั่วแผ่นหลังผม และทั่วตัวผม ผมตัวสั่น “โอ๊ย เจ็บบบบครับ”
เหมือนวินไม่ได้ยินเสียงคำอุทธรณ์ใดๆ มือแกร่งข้างหนึ่งของเขาจับหัวไหล่ผมแน่นขึ้นและกดตัวผมลงอีกครั้ง ส่วนมืออีกข้างพยายามบังคับทิศทางเครื่องมือของเขาไม่ให้คลาดเคลื่อนจากเป้าหมาย ผมพ่นลมออกมาทางปาก พร้อมเริ่มหายใจถี่แรง เขาเริ่มเอนตัวลงเอาแผ่นอกของเขาอิงแนบใกล้แผ่นหลังผม มืออีกข้างของเขาพยุงตัวเองไว้ ขณะที่วินพยายามจะเคลื่อนเข้าสู่ความลึกกว่าเดิม ผมเริ่มเจ็บแปลบแรงขึ้นและแรงขึ้น ผมหลับตาแน่น รู้สึกเหมือนมีน้ำตาออกมาตรงหาตาง ผมส่งเสียงร้องโอดโอยเหมือนวิงวอนขอละเว้นความตายจากเขา
ในที่สุด ความเจ็บปวดทรมานเป็นฝ่ายชนะ ผมไม่สามารถทนต่ออีกแล้ว ผมเอียงตัวหลบพร้อมผลักเขาออกไป แต่ไม่วายผมก็ยังคงรักษาความเป็นเจ้าบ้านไว้อย่างสุภาพ “ขอโทษครับวิน ไม่ไหวจริงๆ ครับ” ผมนอนคว่ำหน้าอยู่อย่างนั้น ไม่รู้นานเท่าไหร่ พยายามหายใจเอาอากาศที่มีในโลกเข้าไปให้มากที่สุด ส่วนในใจก็สบถด่าตัวเอง
“ไม่น่าเล้ย ทำไมกูซวยโคตรอย่างนี้”
ตอนที่ผมเจอเขาครั้งแรก เขาสะดุดตาผม หนุ่มผิวคล้ำ กล้ามหน้าอกกำลังพอดี เขามีหนวดเคราบางๆ ขนตางอนและยาวเหมือนผู้หญิงนั่น-แบบที่ผมชอบเลยครับจนผมต้องแอบเหลือบมองเขาอยู่บ่อยๆ
ดูเขาคงจะปิ๊งผมอยู่เหมือนกัน ก็เขาคอยส่งสายตาเจ้าชู้มาทางผมตลอดน่ะสิ จนผมอดพูดจาแซวเขาไปไม่ได้เพื่อกลบเกลื่อน
ผมบอกเพื่อนๆ ในก๊วนเหล้าว่าผมถนัดงานอะไร บังเอิญเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ที่เขาทำ เขาต้องสนใจและคงขอเบอร์ผมจนได้ ผมไม่ให้ใครก่อนหรอก เดี๋ยวเสียฟอร์ม สักครู่ ผมกระซิบให้เพื่อนซี้ที่นั่งข้างๆ ลุกไปห้องน้ำนานๆ เผื่อเขาอยากจะขยับมา ผมเตรียมขยับตัวรออยู่แล้ว หวังว่าหัวเข่าของเราจะได้เจอกัน
สองสามวันผ่านไป เขายังไม่โทร. มา ผมเกือบจะหมดความอดทน พอ “พิชิต” ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ผมก็ยิ้มออกมาได้ เขาเอาแต่คุยเรื่องงาน แต่ผมก็เฉไลคุยเรื่องเล่นๆ ไป ตอนเย็นวันศุกร์ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็หมดเวลางานแล้ว ถ้าเขาไม่โทร. มา ผมคงไปกินเหล้ากับเพื่อนตามปกติ
“ครับ ได้ครับ” ผมตอบไปแบบไม่ลังเล
เบียร์เย็นเจี๊ยบที่เขาส่งให้คงเพิ่มดีกรีความร้อนในตัวผม เขาชวนผมนั่งดูดีวีดี เขาเปิดหนังโป๊สุดๆ แต่เรื่องนี้ผมเคยดูมาแล้ว เขาคงคิดว่า จะต้องปลุกอารมณ์ผมก่อน จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นเลย
ตอนผมนวดหัวไหล่ให้เขา เขาคงชอบมากๆ ผมบรรจงบีบอย่างช้าๆ ผมจับศรีษะเขาให้มาชิดกับหน้าท้องของผมจะได้รับรู้ว่ามันแบนราบและแข็งแกร่งขนาดไหน ในห้องนอน ผมเหลือบไปเห็นม้วนกระดาษทิชชู่สำหรับใช้ในครัว อดขำไม่ได้ ผมก็มีเหมือนกัน จะใช้ทิชชู่ธรรมดาได้ไง มันคงซับไม่หมด ใครๆ ก็ใช้กันแบบนี้นี่นะ
ผมผลักเขาไปที่เตียงนอน พอเขาเริ่มซุกหน้าลงบนแผ่นอกของผม จูบหัวนม ใช้ลิ้นเวียนวนและเลียมันไปรอบๆ ผมรู้สึกเสียวมากครับ ผมเริ่มผ่อนคลายมากขึ้น ผมเริ่มรู้สึกแล้วว่า อะไรๆ มันตื่นตัวอยู่ข้างล่าง ทั้งผมและเขา
ขณะที่เขากำลังย้ายจุดทำการจากแผ่นอกผมไปสู่ลำคอ ผมรู้สึกจักจี้ไปหมด ไม่ค่อยมีใครทำอย่างนั้นให้ผมมาก่อน ยิ่งรู้สึกแปลกๆ หากใครเกิดมาจูบปากผม ผมไม่ชอบ ไม่ใช่ว่า ผมรังเกียจนะครับ แต่ผมรู้สึกไม่อยากทำอย่างนั้นกับทุกๆ คนไป ผมไม่อยากรู้สึกอยากโรแมนติคกับใคร ผมรู้ตัวดีว่า ผมไม่ใช่คนแบบนั้น เกมนี้เป็นเพียงอารมณ์อยากระบาย ผมคิดว่าเขาก็รู้สึกเหมือนผม
ผมขยับตัวหลบริมฝีปากเขา เบือนหน้าหนี แล้วรีบจับหัวไหล่เขาไว้ ดันเขาออกไป ผมเห็นใบหน้าของเขาชัดขึ้น ขนตายาวงอนของเขายิ่งทำให้อารมณ์ผมพล่าน ผมเปิดเกมรุกเขาแทน เริ่มต้นจากลำคอ ลิ้นรัวเรื่อยขึ้นไป กัดติ่งหูของเขาเบาๆ มองดูคร่าวๆ แล้ว สิ่งที่พ่อให้มาของผมดูยาวกว่าของเขาแน่ๆ
ตอนนี้พิชิตดูเหมือนจะอยากเปลี่ยนท่านอน แต่ผมยังอยากทำหน้าที่ผู้นำต่อไป
และแล้วสิ่งที่ผมไม่คาดคิดมาก่อนก็เกิดขึ้น
คำขอของผมที่แสนปกติธรรมดาสำหรับคนอย่างเขาในเวลาต่อมาทำให้เขาหน้าซีดเผือดอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้ผมถึงจุดสำคัญแล้วและผมจะต้องไปถึงที่นั่นให้ได้ ผมคิดไว้ก่อนนานแล้ว ตั้งแต่เห็นหน้าหล่อของเขา ผมไม่มีทางปล่อยโอกาสนี้ไปหรอก
พอเขาปฏิเสธว่า “คือผมไม่เคยให้ใครรุก” ผมรู้สึกผิดหวังทันที
ผมมองคนผิดได้ยังไงนะ? ครั้งนี้คงต้องผิดมีอะไรพลาดไปแน่ๆ หรือเขาคงกำลังเล่นตัวกับผม?
แต่ด้วยสายตาวิงวอนของผม เขาคงรู้สึกได้ และอีกอย่างผมเป็นแขกของเขา อุตส่าห์เดินทางฝ่ารถติดมาเพื่อมาหาเขาถึงบ้าน เขาจะต้องยอมผม
ผมไม่สนใจอะไรอีกแล้ว รู้เพียงแต่ว่า ผมอยากจะรุกเขาให้ได้ เครื่องผมร้อนสุดๆ ผมเลยให้สัญญากับเขาว่า จะไม่รุนแรงกับเขาทั้งๆ ที่ผมก็ไม่แน่ใจตัวเอง
ผมเอื้อมมือไปหยิบถุงยางพร้อมเจลหล่อลื่น ผมทามันกับผม และกับเป้าหมาย ผมค่อยๆ พลิกตัวเขาให้นอนคว่ำลง เอาหมอนรองหน้าท้องเขาไว้เพื่อให้บั้นท้ายของเขายกขึ้น ผมเอามือจับมันไว้ให้ไม่คลาดเคลื่อนจากเป้าหมายตรงบั้นท้ายเบื้องหน้า แล้วกดมันเข้าไป ขยับตัวตัวช้าๆ
พิชิตโก่งตัวขึ้นทันที ผมได้ยินเสียงเขากลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ ก่อนที่ผมจะค่อยๆ ดันมันเข้าไปอีก มือของเขาตะบบและกำหมอนไว้แน่น ผมรู้ว่า ช่วงจังหวะนี้อาจจะเจ็บบ้าง แต่ถ้าผ่านช่วงนี้ไปจนรอบวงของเขาเริ่มขยายมากขึ้น ความเจ็บจะค่อยๆ ลดน้อยลง เขาจะเริ่มร้องออกมาด้วยความเสียวซ่าน
ผมเริ่มกดมันเข้าไปอีกครั้ง ตอนนี้ ผมอยู่ในตำแหน่งที่ควบคุมทิศทางได้ดีแล้ว ผมเริ่มรู้สึกถึงความอุ่นข้างในตัวเขาแล้ว ผมหายใจยาวขึ้น เอามือลูบไล้แผ่นหลังเขาเพื่อให้เขารู้สึกผ่อนคลาย
ขณะที่ผมกำลังจะก้มลงไปจูบซอกคอเขาเพื่อให้เขารู้สึกดีขึ้น เขากลับออกอาการเกร็ง ผมเคยเห็นอาการนี้มาก่อนกับคนที่ผมเคยผ่านมา ส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้นแหละ จนผมผ่านเข้าไปและอยู่ในนั้นสักพัก พวกเขาจะไม่รู้สึกเจ็บอีกต่อไป จะมีแต่ความรู้สึกแปลกใหม่เหมือนได้ขึ้นสวรรค์
พิชิตยังส่งเสียงร้องออกมา บอกว่าเจ็บแค่ไหน ดูเหมือนเขาเจ็บปวดแสนทรมาน หรือสุขสุดๆ? ตอนนี้ผมไม่อาจหยุดความต้องการของตัวเองได้แล้ว ผมต้องเคลื่อนที่ต่อไปข้างใน ะ เขาเริ่มดิ้น และหันมาผลักหัวไหล่ผมให้ออกไป “อีกนิดเดียวเอง เดี๋ยวก็รู้สึกดีแล้ว” ผมอยากร้องอุทธรณ์ให้กับการปฏิเสธของเขาต่อไปอีก แต่ก็ต้องเก็บไว้ในใจ
"กูไม่น่ามาหาเล้ย เสียเวลาโคตรๆ"
(หมายเหตุ : ในหน้าเว็บ การเรียงเรื่องต่างจากในหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งในหนังสือพิมพ์ ตีพิมพ์เป็นสองคอลัมน์ ทำให้ท่านผู้อ่านอ่านคอลัมน์ซ้ายหรือขวาก่อนก็ได้ หรือจะอ่านสลับกันไปมาเหมือนตอบโต้กันก็ได้)
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
12 comments:
เข้ามาเยี่ยมกันลืมกันไปเสียก่อนครับ
เรืองฤทธิ์
อ่านแล้วพูดอะไรไม่ออก
ได้แต่อื้อหือ อ้าห๊า
แต่ลงเอยแบบนี้สงสารสองหนุ่มนี้จังเลย
คราวหลังเจอแบบนี้ต้องโทรเรียก bottom มาซักคนแล้วก็ threesome กันไปเลย
จะได้จบแบบแฮปปี้อ่ะ
อ่านแล้วรู้สึกว่าทั้งสองคนหวังว่าจะ Fun อีกฝ่ายเพราะคิดเอาเองว่าตัวเอง "มีดี" กว่า
ประกอบกับความคิดเข้าข้างตัวเองที่ว่า
"ผมคิดว่าเขาก็รู้สึกเหมือนผม"
ที่ทำให้ "เกม" ต้องจบลงแบบ เซ็ง เสมอกันไป
นี่ถ้า "ศึกษา" (ขออนุญาตใช้คำโบราณ) กันอีกสักนิดก็คงไม่จบเศร้าแบบนี้...
เอ่อ อึ้ง โพสน์ไม่ถูก ไม่คิดว่าพี่วิทย์จะกล้าเอาบทความนี้ลงคอลัมภ์ ยอมรับค่ะว่ากล้ามากๆ
Sawasdee P'Vit
Hi everyone,
no comment for story...
Anyway, new image of blog....new picture of P'Vit too...
อืม...ทีหน้าทีหลังถามตรงๆ ว่าเป็นแบบไหน จะได้ไม่ต้องเสียอารมณ์ ผมคิดว่าทุกคนน่าจะยินดีตอบนะ
bbill4you
อ่านไปอ่านมา เบื่องล่างกลับตึงเครียดพร้อมกับอาการงงเล็กๆ
โดยส่วนตัวคิดว่าการเป็นเกย์น่าจะเป็นโบทดีที่สุด
เพราะ ถ้าเป็นด้านใดด้านเดี่ยวเบื่อแย่ รับก้อรับ รุกก้อรุก ผลัดกันน่าจะดีที่สุด
แต่ส่วนใหญ่ก้อน่าจะดูกันออกนะ ว่าใครรุกใครรับ
มีแต่พวกรุกอยากกับรุก หรือรับอยากกับรับ เจอกันมันก้อเลยเป็นปํญหา แต่ก้อไม่เห็นต้องจะตะบี้ตะบั่นทำกันเลย
เปลี่ยนมาทำเทคนิคอื่นก้อได้
ยังก้อลองคิดดูว่าแค่สนุกคืนเดี่ยวเหมือนขึ้นสวรรค์
แล้วก้อตกนรกทั้งชีวิตยังไงก้อระวังกันบ้างก้อแล้วกัน
อืมม เรนนี่คิดว่า เรื่องแบบนี้ต้องยอมรับว่าเกิดขึ้นบ่อยคะ อย่างกรณีที่เรนนี่เคยเจอมา ต่างฝ่ายต่างเป็นรับ แต่ดันกระโดดขึ้นเตียงเดียวกัน สุดท้ายก็แทบจะกรี๊ดสใส่หน้ากัน ถ้าถามกันก่อนเรื่องแบบนี้คงไม่เกิดจริงไหมคะ
น้องเขาบอกว่า ก็เล็งดีแล้วว่า อีกฝ่ายต้องชอบแบบไหนชัวร์ แต่อีกใจก็ไม่แน่ใจ เลยต้องท้าพิสูจน์ซะเลย กรณีรุกรับมันเกิดเหตุได้หลายแบบ บางรายขำๆๆๆ มาก ดูภายนอกบอกไม่ได้หรอกครับ ส่วนเรื่องถามเนี่ย ถามนิสสสหนึ่ง กับเพื่อนสนิทด้วยกันบางครั้งก็ไม่กล้าถามกันเลยว่า อย่างเอ็งตกลงเป็นแบบไหนกันแน่ แต่ที่ชัวร์ ใครชอบแบบไหน อย่าปิดกัน หรือสร้างภาพ จะทำให้เอวัง เซ็งทั้งคู่ดูไม่จืดอย่างกรณีดังกล่าว
เรื่องที่เขียนไม่ติดเรทนะ...ระวังสุดชีวิต
ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนั้นเลยครับ เพราะ เช้คดีแล้ว และคิดว่า ยังไง ๆ ก็คงจะไชคร้ายขนาดขึ้นไปยกขาขัดกันอยู่บนเตียง ..5555
นี่แหละครับ อุปสงค์ไม่สอดคล้องกับอุปทาน ลองหันมาคบกันแบบเพื่อนคุยดีกว่ามั้ยครับ มากกว่าที่จะเป็น เพื่อน fun ของกันและกัน
P.S.1 พี่วิทยาเปลี่ยนรูปเถอะครับ น่ากลัวไปมั้ยพี่?
P.S.2 ผมพยายามอ่านแบบไม่ให้เรท ระวังสุดชีวิตเหมือนกัน 55+ แต่สัปดาห์นี้คนเข้ามาเมนต์เยอะเลยนะครับ สงสัยต้องเปลี่ยนแนวเขียนมั้งแล้ว 55555+
Am I (Are you) "Top", "Bottom", or "Versatile"? อีกคำหนึ่งที่น่าสนใจ คือ "Being gay not about being effeminate" (เป็นเกย์ ก็ไม่ได้จะต้องแสดงออกเป็นสาวไม่ใช่หรือ) และอีกหนึ่งที่ต้องหาคำตอบ "I am a natural bottom," and not to feel slightly less of a "man" because of it. (แม้เป็น "รับ" ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องสูญเสียความรู้สึกว่า man ลดลงไม่ใช่หรือ?)
จริงๆ มันเป็นเรื่องระหว่างคนสองคน บางคนชอบที่จะรุก (top) บางคนชอบที่จะรับ (bottom) หรือบางคนสามารถปรับตัวให้มีความชอบในหลายบทบาท (versatile หรือที่เรียกว่า both) ขนาดยังไม่พูดถึง bisexual นะเนี่ย เห็นไหม โลกใบนี้เต็มไปด้วยความหลากหลาย และบางครั้งก็คงบอกได้ยากว่า คนนั้นเป็น "top" "bottom" หรือ "versatile" อย่าได้นึกว่า gaydar จะใช้ได้ผลเสมอไป ที่เข็มทิศ หักมานักต่อนัก ก็มีเยอะไม่ใช่หรือ
ทางที่ดี อย่าได้อายที่จะถามคำถาม ถึงความพึงพอใจของแต่ละฝ่าย เพราะเรื่องของคนสองคน ก็ต้องแก้ปัญหาด้วยกันทั้งสองฝ่าย เพียงพูดคุยและสอบถามถึงความพอใจของกันและกัน ก็อาจทำให้มีความรู้สึกที่ดีไม่ใช่หรือครับ
Just say "yes" or "no" อย่าได้อ้ำอึ้งอยู่เลย ชอบแบบไหนก็บอกกันตรง จะได้ไม่ต้องเสียความรู้สึกทั้งสองฝ่าย เดี่ยวจะกลายเป็น เจ็บทั้งตัวไม่พอ เจ็บใจอีกต่างหาก
ขอให้โชคดี....ครับ
Post a Comment