ผู้ใหญ่รักเด็ก เด็กรักผู้ใหญ่

เลิกแอบเสียที / วิทยา แสงอรุณ Metro Life นสพ. ผู้จัดการวันเสาร์ vitadam2002@yahoo.com 18-19 Nov 2006

"ไม่ได้เคยคิดชอบเด็กเล้ย...แต่พอคบๆ ไปก็ดีว่ะ" นายแซ้งค์บอกยิ้มๆ เหมือนภูมิใจอะไร หรือไม่ก็ค้นพบอะไรบางอย่าง

เพื่อนผมคนนี้ไม่ได้กำลังอวดอะไรแต่อย่างใดนะครับ เพราะเท่าที่ผ่านมา ผมก็เห็นมันควงคนอายุใกล้ๆ กันมาโดยตลอด ทั้งหน้าตาหรือรูปร่างรึก็สูสีกัน ถ้าไม่ใช่หนุ่มอายุยี่สิบปลายๆ ก็ใกล้ๆ ล่ะ คือ...ต่างคนก็ต่างเลยเลขสามไปแล้วสักพักนึง

แล้วผมก็เริ่มมองไปรอบๆ ตัว

เดินเล่นอยู่วันก่อน ก็ดันไปเจอเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยคนหนึ่ง เป็นเพื่อนต่างคณะ ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่หรอกครับ แต่ด้วยความเป็นคนขายาวเหมือนกัน (แต่หลังไม่ยาวนะครับ) เราเลยมักจะมองเห็นหน้ากันและกัน...ลอยอยู่เหนือศีรษะผู้คนที่กำลังเดินขวักไขว่ในรั้วมหา' ลัยเสมอๆ

ตอนนั้นผมไม่รู้หรอกว่า นอกจากเขาจะมีรูปร่างผอมสูงเหมือนผมตอนเรียนหนังสือแล้ว เขาก็ยังสังกัด "สมาคมมนุษย์สายรุ้ง" เหมือนกัน ถ้ารู้ใจกันตั้งแต่สมัยโน้น เราคงสนิทกันไปแล้ว

วันนี้ก็อีกหนหนึ่ง เรามองเห็นกันในระยะไกลๆ อีกแล้ว พอผมเดินมาถึงอยู่ตรงหน้าเขา เขาก็ร้องทักขึ้น "เฮ้ย! เป็นไง...สบายดี? เออ...นี่แฟนเรา" นายเอ็มบอก ผมส่งยิ้มให้เขา เขาเอามือแตะหัวไหล่หนุ่มน้อยคนหนึ่งเบาๆ เป็นเชิงแนะนำ ผมดูและเดาๆ แล้ว อายุของน้องคนนั้นไม่น่าจะเกิน 22-23

แหม...เดี๋ยวนี้ เปิดตัวกันใหญ่....ผมคิดในใจ แล้วก็ส่งยิ้มให้เอ็ม แถมเปิดตัวแฟนให้รู้จักอย่างนี้ชัดๆ ผมชอบครับ ไม่เหมือนบางคน เดินๆ อยู่ ใกล้ชิดตัวติดกันยังกะแตงเม แต่มาแนะนำว่า นี่เพื่อนเรา อย่างนี้ เรียกว่า ไม่แน่จริง

"เออ...สบายดี" ผมร้องตอบเอ็มไป ด้วยอาการลิงโลดหรือจำไม่ได้ถนัด แต่เมื้อมันบวกกับอาการพูดจาเรื่อยเจื้อยของผมและเห็นหน้าละอ่อนของน้องคนนั้นแล้ว ก็อดโพล่งไปไม่ได้ว่า

"โหย....นั่นลูกเหรอวะ?"

รู้สึกนายเอ็มจะไม่ค่อยรับมุขเท่าไหร่ เพราะดูสีหน้าเรียบเฉย เฉยในแบบไม่ค่อยปกติ ตอนนี้ถ้ามีกระจกส่องหน้า ผมคงเห็นหน้าตัวเอง กร่อย...จ๋อยกะจ๊อง...

ผมมานั่งทบทวนดูเรื่อง อายุกับความสัมพันธ์ ซึ่งความจริงแล้ว ถ้าคุณๆ เป็นนักท่องเว็บ คุณก็อาจจะพบประกาศทำนองนี้บ่อยๆ เหมือนกัน... "ป๋มอยากหาพี่ชายมาดูแลจัง" หรือ "หนุ่มใหญ่ วัย 30 up อยากหาน้องชายไว้คุยเป็นเพื่อน...."

บางคนก็ไม่ค่อยชอบประกาศทำนองนี้เท่าไหร่ แต่เอาเถอะครับ คนเขาอยากแค่รู้จักกัน หรืออยากจะไปทำอย่างอื่นด้วยก็แล้วแต่เขา อันนี้ค่อยมาว่ากันทีหลัง

ผมคิดว่า ความสัมพันธ์ต่างวัย เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย คนที่อายุต่างกันเกือบหนึ่งรอบ หรือกว่านั้น ต่างมีประสบการณ์ ความคิด-ความอ่านไม่เหมือนกัน พอคบเป็นแฟนกัน มันย่อมต่างจากการคบคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันอยู่แล้ว หรือคงจะจริงอย่างที่ว่า “ความแตกต่างมักดึงดูดให้คนเราเข้าหากัน?”

ผมเลยไปลองถามนายแซ้งค์อีกทีว่า ทำไมคบเด็กแล้วบอกว่ามีความสุขล่ะ?

สำหรับเขา เขาไม่คิดว่า อายุที่ห่างกันสิบปีหย่อนๆ (เอง) ระหว่างเขากับ "น้องเต๊ะ" จะเป็นอุปสรรคอันใด เขาบอกว่า น้องเต๊ะ เรียนอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว กำลังขึ้นปีสาม แต่ที่สำคัญ น้องเต๊ะ ไม่ใช่วัยรุ่นแนวเหลาะแหล่ะ จ๊อะแจ๊ะ ต้องคอยเอาอกเอาใจตลอด หรือเป็นประเภททำตัวเหมือนข้าเก่งชิบ...แต่พูดจาไม่รู้เรื่อง

"น้องเขาค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่นะ เป็นผู้ใหญ่กว่าอายุ ก็แปลกดีนะ ไอ้เราเอง ก็ไม่ได้ทำเป็นผู้ใหญ่ ผ่านโลกมามาก ซะจนเห็นใครๆ ทำอะไรไม่เข้าไปหมด ก็เลยรู้สึกดีไง" นายแซงค์เล่า

เท่าที่ผมสังเกตคู่นี้ เวลาผมได้เห็นเขาอยู่ด้วยกัน รู้สึกโลกทั้งโลกจะมีอยู่กันแค่สองคน ต่างคนเหมือนจะดึงดูดอีกคนให้เข้าไปสู่โลกของอีกคน ผมคิดว่า นายแซงค์ดูร่าเริง มีชีวิตชีวาขึ้น

นี่เหรอ อานุภาพ ของการคบเด็ก?

แล้วนายทำตัวเป็นเสี่ยหรือเปล่า แบบว่า เปย์ โน่นเปย์นี่ให้น่ะ ผมหยั่งเชิงดู

เขาบอกว่า ก็มีบ้างเหมือนกัน มันคงหนีไม่พ้น เพราะน้องเขายังไม่มีรายได้อะไร ก็ต้อง "จ่าย" ให้บ้างเป็นธรรมดา "แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร ดูหนัง กินข้าว แต่ฉันไม่ได้ทำตัวทุ่มทุนสร้างนะ รู้สึกไม่ดี แล้วเขาจะรู้สึกไม่ดีด้วยเวลาเราจ่ายให้ ผู้ชายน่ะ มันก็อยากดูแลตัวเองเหมือนกัน แต่ก็ดีตรงที่ เขาไม่เหมือนคนอยากได้อยากมี บ้าของแพงๆ"

คงจะจริงอย่างนั้นมั้งครับ วันก่อน ผมโทรฯ ไปหานายแซงค์ เขาบอกว่า กำลังเดินอยู่ร้านบีทูเอส ผมรู้สึกแปลกใจ เพราะปกติ นายแซงค์เป็นคนที่ไม่เข้าร้านหนังสือ เขาเฉลยมาทางโทรศัพท์ทีหลัง

"เอ่อ...มาซื้อเครื่องเขียนกับน้องเขา"

สงสัยน้องเต๊ะคงได้กระเป๋านักเรียนใบใหม่พร้อมดินสอสี กับยางลบครบเซ็ต

เพื่อนอีกคนของผม ก็เลยเลขสามไปแล้วเหมือนกัน สองคนนั่นคบกันก็ย่างเข้าปีที่สามแล้ว นายเอกับน้องบี (ไม่มีชื่ออื่นแล้วเหรอ? เอ่อ...คุณผู้อ่านครับ ก็นามสมมุติทั้งนั้นแหละครับ แต่มีตัวตนจริงๆ เขียนเรื่องชาวบ้านมาหลายคนแล้ว เริ่มคิดชื่อไม่ค่อยจะออกน่ะ)

สำหรับคู่นี้ก็ห่างกันประมาณ 10 ปี ระยะหลังสองคนเริ่มมีเรื่องกินแหนงแคลงใจกันบางอย่าง นายเอกำลังคิดว่า จะคบน้องเขาต่อดีไหม? ในฐานะที่ผมสนับสนุนให้คนมีความรักเบิกบานในหัวใจกันนานๆ ผมก็จะบอกเขาไปว่า ต้องใจเย็นๆ แล้วก็คิดให้รอบคอบ เซย์กู๊ดบายน่ะมันง่ายนะ

เรื่องของเรื่องคือ ด้วยความที่นายบี เป็นเด็กหน้าตาดี เลยมีคนเข้าหาเยอะ ล่าสุด ก็เกิดมี "รุ่นพี่ใจดี" คนหนึ่งให้หยิบยืมเงินทองอย่างมโหฬารเพื่อไปลงทุน

ก่อนหน้านี้นายเอ ไม่ได้สนับสนุนการลงทุนครั้งนี้ แต่นายบีก็มั่นใจ และคิดว่า ตัวเองมีศักยภาพพอเรื่องทำธุรกิจ ขาดก็แต่เรื่องเงิน พอมีรุ่นพี่ใจดี โผล่เข้ามา ก็เลยตอบโจทย์ได้ แต่แล้ว ก็เกิดปัญหา การลงทุนไม่เป็นดังฝัน เรื่องก็ค่อยๆ แดงขึ้นมาแล้วเข้าหูนายเอ

ทั้งๆ ที่ต่อมา นายเอ ก็รู้ความจริงจากปากนายบีแล้วนะครับว่า น้องบีสุดที่รักไปมี something wrong กับรุ่นพี่นักเปย์คนนั้นไปเรียบร้อย (ไม่รู้ว่า ถือว่าเป็นการชำระดอกเบี้ยให้กันหรือเปล่า) นายเอก็บอกว่า เขาให้อภัยได้ เพราะ...

"บีเป็นคนที่เข้าใจอารมณ์เรา เราว่า..จะหาคนอย่างนี้ยาก ที่ผ่านมา เขาทำอะไรไป ก็ ไม่คิดอะไรมากหรอก ตอนนี้ก็ยังอยากคบต่อไปอยู่" นายเอ พูดอย่างจริงจัง ผมก็ได้แต่ภาวนาว่า เขาทั้งสองจะผ่านอุปสรรคนี้ไปได้

ฟังเรื่อง รุ่นพี่ผู้อาวุโสกว่ามามากแล้ว มาฟังเสียงน้องน้อยบ้างไหมครับว่า เขาคิดยังไง ถึงได้คบ "รุ่นใหญ่"

หมายเหตุ : รุ่นใหญ่ในที่นี้ ผมหมายถึง คนอายุเลยเลข 3 ไปแล้วนะครับ ผมคิดว่า คนอายุ 30 กว่า จะเป็นคนที่มีความคิดอีกแบบหนึ่งที่ไม่เหมือนคนอายุ 20 แม้กระทั่ง 20 ปลายๆ แน่นอน ท่านผู้อ่านที่อายุยังไม่ถึงเลข 3 อาจจะกลับมาอ่านตรงนี้ใหม่ ตอนถึงเลขสามแล้วก็ได้ แล้วจะเข้าใจว่า ผมกำลังหมายถึงอะไรอยู่ ส่วนหนึ่งก็คือ พลันที่ตัวเลขจาก เลขสองปรับปุ๊บไปเป็นเลขสามเพียงข้ามคืน วันนั้นน่ะ ส่วนใหญ่มักจะบอกว่า รู้สึกวูบ... เพราะมันมีคำถามอะไรตามมามากมาย อย่างว่า เคยสนุกๆ คบคนนั้นที คนนี้ที หรือทำแต่งาน หรือมุ่งมั่น สร้างฐานะ ตอนนี้ พอถึงเลขสามเป๊ง ก็มักจะหันมาตั้งคำถามใหม่กับตัวเองว่า ตกลงชีวิตฉัน ต้องการอะไรกัน แน่? วันสนุกๆ เหล่านั้น กำลังจะจากฉันไปหรือเปล่า? หรือฉันกำลังจะแก่เกินไปสำหรับเขา?

เราคงต้องทิ้งเป็นคำถามอย่างนั้นไว้ก่อน

สำหรับคนเลขสองต้นๆ และกำลังคบกับคนเลขสาม อย่าง "นายโด่ง" เขาเล่าให้ผมฟังว่า

"คบกับคนอายุมากกว่า รู้สึกอบอุ่นครับ" เขาบอกเรียบๆ ผมเลยถามต่อว่า "อบอุ่นอะไร ยังไง?" เขาก็บอกมาด้วยเสียงมั่นใจว่า "อบอุ่นทุกอย่าง แต่ผมก็เลือกด้วยนะครับ แบบว่า อายุเลขสามแล้ว พุงใหญ่ๆ น่ะ คงไม่สน แต่พอเอาเข้าจริง ถ้าเขานิสัยดี ก็คงต้องดูกันไป เคยคบกับคนอายุพอๆ กัน ก็ดีไปอีกอย่าง เล่นหัว ขี่คอ ขี่หลังได้ แต่กับพี่เขา ผมจะไม่ทำอย่างนั้น เราก็ให้ความเคารพเขาอีกอย่างหนึ่ง"

โดยวิสัย (ที่ใครๆ คงรู้แล้ว) ผมถามเขาต่ออย่างไม่เกรงใจว่า "แล้วเรื่องบนเตียงล่ะน้อง เป็นไง กับคนอายุมากกว่าขนาดนั้นน่ะ"

เขาบอกว่า "อันนี้ ไม่ขอตอบ แหะ..ส่วนตัวครับ"

โหย...อดเลย รู้สึกน้องคนนี้จะเคารพคนที่เขาคบเอามากๆ

คุณผู้อ่านครับ คุณกำลังคบกับคนอายุน้อยกว่า หรือมากกว่า อย่างกรณีที่เล่าไหมครับ?

ผมกำลังสงสัยว่า ความแตกต่างทางอายุ ประสบการณ์ มุมมอง ฐานะเศรษฐกิจ มันกลายเป็นสิ่งที่เกื้อหนุนให้คนสองคนที่อายุต่างกัน ได้มาเจอกัน หรือดึงดูดให้เข้าหากันหรือเปล่า? คนอายุมากกว่า กำลังใช้ชีวิตผ่านชีวิตคนอายุน้อยกว่า เพื่อจะกลับไปหาสิ่งที่ตัวเองเคยโหยหาแล้วไม่ได้ทำตอนอายุขนาดนั้นหรือเปล่า?

ส่วนคนอายุน้อยกว่า มีความกระหายอยากรู้ว่า อนาคตตัวเองจะเป็นยังไง การคบหากับคนอายุมากกว่า จะช่วยคลายปริศนาได้หรือมั๊ย? เพราะพี่เขา “ผ่านอะไรๆ” มาเยอะกว่ามากแล้ว? คนที่อายุน้อยกว่า กำลังแสวงหาความอบอุ่น หรือความปลอดภัย จากคนอายุมากกว่า หรือเขากำลังแสวงหาอะไรกันแน่? แล้วในทางตรงกันข้ามกันล่ะ?

แล้วทั้งหมดนี้ มันจะมีส่วนทำให้ความสัมพันธ์ของชายรักชายยืนยาวขึ้นบ้างหรือไม่ หากมีอายุเป็นปัจจัย?

ส่วนตัวผมแล้ว ผมคิดว่า มีอะไรอีกหลายอย่างที่น่าค้นหา มีคำถามอีกมากมายรอคำตอบอยู่ อายุ รูปร่าง หรือหน้าตา อาจเป็นแค่เพียงตัวเลข?

-end-

All rights reserved.